นีล เรมเมอรี่ และ เซนน์ ฮาเวอร์เบค สองคู่หูติ๊กต็อกเกอร์ชาวเบลเยียม คือผู้ก่อการสุดระห่ำครั้งนี้ พวกเขาวางแผนอย่างแยบยลด้วยการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่สนาม สวมเสื้อสะท้อนแสงแฝงตัวเข้าไปในสนามแข่งตั้งแต่หนึ่งวันก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น จากนั้นจึงหาห้องน้ำเป้าหมายและจัดการติดป้าย “ห้ามใช้ชั่วคราว” เพื่อใช้เป็นที่กำบังและพักค้างคืน
ตลอดระยะเวลากว่า 27 ชั่วโมงในห้องน้ำ เรมเมอรี่ได้เปิดเผยกับสื่อบ้านเกิดอย่าง VRT News ถึงประสบการณ์สุดทรหดว่า “เราเตรียมแค่กระเป๋าสะพายหลังกับขนมเล็กน้อย เดินสำรวจสนาม ถ่ายคลิปเพื่อฆ่าเวลา แสงไฟเปิดสว่างตลอดคืน มันไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย การจะนอนหลับแทบเป็นไปไม่ได้ สภาพร่างกายและจิตใจถือว่าย่ำแย่มาก”
- ไก่ตั้งค่าตัวโรเมโร่ 60 ลป. ท่ามกลางความสนใจจากตราหมี
- เหมือนบ้าน!’ซานโช่’ อำลาสิงห์ผ่านวิดีโอหลังสิ้นสุดสัญญายืมตัว
- ไปเล่นลีกอื่น!’อิริคเซ่น’ ประกาศลาพรีเมียร์ลีกหลังหมดสัญญากับผี
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของพวกเขาก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อถึงวันแข่งขัน สองหนุ่มอาศัยจังหวะและความชุลมุน คอยสังเกตการณ์เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ไม่ค่อยเข้มงวด ก่อนจะแฝงตัวเนียนๆ เดินออกมาปะปนกับแฟนบอล และในที่สุดก็สามารถแทรกตัวเข้าไปยังอัฒจันทร์ฝั่งกองเชียร์ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้สำเร็จ
โชคยังเข้าข้างพวกเขาอีกชั้น เมื่อทีมที่พวกเขาเลือกไปอยู่ด้วยนั้นเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ โดย เปแอสเช โชว์ฟอร์มสุดยอดไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน ไปขาดลอยถึง 5-0 ทำให้สองหนุ่มได้ฉลองชัยชนะสุดเหวี่ยงไปพร้อมกับแฟนบอลนับหมื่นในสนาม “เปแอสเช ชนะ 5-0 และเราก็ได้อยู่ในกลุ่มผู้ชนะ มันเป็นการชมฟุตบอลที่สวยงามที่สุดเท่าที่เราเคยดูมา” เรมเมอรี่ กล่าวปิดท้ายถึงประสบการณ์ที่แลกมาด้วยความอดทนครั้งนี้ แม้จะเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและเสี่ยงต่อการถูกจับได้ก็ตาม
