เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือทีมเชลซี ออกมาอธิบายถึงการตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 3 คนตั้งแต่ครึ่งแรก หลังทีมต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 4 ของเกมบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ “สิงห์บลูส์” 1-2
เชลซีเสียเปรียบตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตู ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 4 ทำให้ มาเรสก้า ต้องปรับแท็กติกทันที โดยส่ง ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น ลงมาเฝ้าเสาแทน และถอด เปโดร เนโต้ ออกเพื่อปรับระบบเป็นกองหลัง 5 คน พร้อมส่ง โตซิน อดาราบิโอโย่ ลงมาเสริมแนวรับ
“ใบแดงเปลี่ยนเกมตั้งแต่นาทีที่ 3 หลังจากนั้นเมื่อพวกเขาเหลือ 10 คนเท่ากัน เกมก็เปลี่ยนสำหรับเรา แต่เราจำเป็นต้องออกสตาร์ตให้ดีกว่านี้”มาเรสก้ากล่าว
“แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นเกมรุกด้วยผู้เล่น 5 คน ดังนั้นไอเดียของผมคือการรับด้วยผู้เล่น 5 คน คุณสามารถตั้งรับด้วย 4 คนได้ตอนที่เล่น 11 ต่อ 11 แต่เมื่อเราเหลือตัวน้อยกว่า เราต้องเพิ่มแนวรับเพื่อปิดพื้นที่ด้านข้าง”
- ‘เป๊ป’ อวยปืนเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป
- ไม่ไหว!เผยเหตุผีถอยดีล ‘ดอนนารุมม่า’ หลังต้องจ่ายสูงถึง 122 ลป.
- คนจริง!’อโมริม’ ยันไม่เปลี่ยนแทคติกแม้โป๊ปสั่งก็ไม่ได้
นอกจากนั้น เชลซียังต้องเสีย โคล พาลเมอร์ ตั้งแต่นาทีที่ 32 โดย มาเรสก้าเลือกส่ง อันเดรย์ ซานโตส ลงมาแทน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าสาเหตุไม่ใช่แท็กติก แต่เป็นเพราะสภาพร่างกายของ พาลเมอร์ ไม่สมบูรณ์เต็มร้อย
“โคล ทดสอบร่างกายในตอนเช้าเพื่อดูว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ เขาไม่ได้ฟิต 100% แต่เขาอยากลงเล่นเพื่อทีม ความทุ่มเทถือว่าสุดยอดมาก แต่หลังจากเล่นไป 20 นาที เขารู้สึกว่ามันเกินไปสำหรับเขา”
“เราจำเป็นต้องเริ่มเกมให้ดีกว่านี้ เราไม่สามารถเสียใบแดงที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดตั้งแต่นาทีที่ 3 ได้ มันทำให้ทุกอย่างยากขึ้น”