เดือน: กันยายน 2025

มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าคนใหม่ของบาร์เซโลน่า ประเดิมสนามได้อย่างน่าประทับใจด้วยการเหมาคนเดียวสองประตู ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก พร้อมประกาศกร้าวว่าเป้าหมายของทีมคือการคว้าแชมป์รายการนี้มาครองให้ได้

ในเกมนัดสำคัญที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค แรชฟอร์ด ซึ่งย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า แบบยืมตัว ได้สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการยิงสองประตูในนาทีที่ 58 และ 67 ก่อนที่ นิวคาสเซิ่ล จะมาได้ประตูตีไข่แตกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก แอนโธนี่ กอร์ดอน ทำให้จบเกม บาร์เซโลน่า คว้าสามคะแนนสำคัญไปได้

• วีรกรรมของกัปตัน ฟาน ไดค์ โหม่งช่วงทดเจ็บเฉือน แอต.มาดริด 3-2
• แฮร์รี่ เคน สร้างประวัติศาสตร์ แข้งอังกฤษมีส่วนร่วมประตูใน UCL มากสุด
• ฟาน ไดค์ สวมบทฮีโร่ ประตูชัยนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล เชือด แอต.มาดริด

หลังจบเกม ดาวยิงชาวอังกฤษผู้คว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้เปิดเผยความรู้สึกว่า “การได้เล่นให้ บาร์เซโลน่า เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ผมกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่นี่เสมอ” เขายังกล่าวชื่นชมทีมและแฟนบอลว่า “แฟนๆ ต้องการเห็นทีมชนะและเล่นฟุตบอลที่น่าประทับใจ และแน่นอนว่าเราต้องการที่จะชนะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

แรชฟอร์ด ยอมรับว่าเกมครึ่งแรกเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับทีม แต่ในครึ่งหลังพวกเขาทำได้ดีขึ้น “ผมรู้สึกว่ามีพื้นที่ให้เล่นมากขึ้น และพยายามที่จะยิงประตูให้ผู้รักษาประตูต้องออกแรงให้ได้” เขากล่าว พร้อมทั้งแสดงความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ “ผมตื่นเต้นมาก ผมจะทุ่มเททุกอย่างที่มี ทีมของเรามีคุณภาพสูง และมันเป็นเรื่องดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนักเตะกลุ่มนี้”

เกมฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล เมื่อได้เห็นวีรกรรมของกัปตันทีมอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่โหม่งทำประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+2 พา “หงส์แดง” บุกไปเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ด้วยสกอร์สุดมันส์ 3-2

ฟาน ไดค์ ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังฉายฟอร์มได้อย่างโดดเด่นสมกับตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ โดยจากสถิติที่ออกมาตอกย้ำถึงความสำคัญของเขาในสนามได้อย่างชัดเจน

• แฮร์รี่ เคน สร้างประวัติศาสตร์ แข้งอังกฤษมีส่วนร่วมประตูใน UCL มากสุด
• ฟาน ไดค์ สวมบทฮีโร่ ประตูชัยนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล เชือด แอต.มาดริด
• คัมแบ็ก!เผย ‘มูรินโญ่’ โอเตตอบตกลงคุมเบนฟิก้าเรียบร้อย

สถิติที่น่าสนใจจากฟอร์มสุดแกร่งของ ฟาน ไดค์

1. มีส่วนร่วมกับเกมสูง สัมผัสบอลมากถึง 105 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดร่วมกับโดมินิก โซโบซไล
2. จ่ายบอลแม่นยำ มีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 97% จากการจ่ายทั้งหมด 87 ครั้ง ซึ่งแม่นยำที่สุดในทีมร่วมกับอิบราฮิมา โกนาเต้
3. คุมเกมรับได้อยู่หมัด เคลียร์บอลจากพื้นที่อันตรายได้มากถึง 8 ครั้ง และยังชนะการดวลลูกกลางอากาศได้ถึง 6 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดของทั้งสองสถิติในเกมนี้
4. สร้างความแตกต่างในเกมรุก มีโอกาสยิง 3 ครั้ง, สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม 1 ครั้ง และที่สำคัญที่สุดคือการทำประตูชัยที่ช่วยให้ทีมคว้าสามแต้มสำคัญมาได้

แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ล่าสุดเขาได้จารึกชื่อในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ด้วยการก้าวขึ้นเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากที่สุดตลอดกาล ด้วยสถิติรวม 53 ครั้ง (42 ประตู และ 11 แอสซิสต์) แซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ที่ทำไว้ 52 ครั้ง (16 ประตู และ 36 แอสซิสต์)

ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นในเกมที่ บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 3-1 โดย เคน โชว์ฟอร์มร้อนแรงเหมาคนเดียวสองประตูในเกมนี้ ทำให้เขามีสถิติส่วนร่วมกับประตูรวม 53 ครั้งจากการลงเล่นในถ้วยใบใหญ่ของยุโรปเพียง 58 นัดเท่านั้น

• ฟาน ไดค์ สวมบทฮีโร่ ประตูชัยนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล เชือด แอต.มาดริด
• คัมแบ็ก!เผย ‘มูรินโญ่’ โอเตตอบตกลงคุมเบนฟิก้าเรียบร้อย
• เอาทุกทาง!แฟนผีโวยหนักทีมขึ้นค่าตั๋วเกมเยาวชนกว่า 233%

นอกจากนี้ เคน ยังเป็นนักเตะคนที่สามในประวัติศาสตร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สามารถทำประตูได้เกิน 20 ลูกกับสโมสรที่แตกต่างกันถึง 2 ทีม โดยเขาทำได้ 21 ประตูเท่ากันทั้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนหน้านี้มีเพียงสองซูเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด) และ เนย์มาร์ (กับ บาร์เซโลน่า และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) เท่านั้นที่เคยทำสถิติเช่นนี้ได้

ผลงานอันน่าทึ่งของ เคน ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ และยังเป็นกำลังสำคัญที่จะพา บาเยิร์น ไปสู่เป้าหมายสูงสุดในฤดูกาลนี้

เกมที่ แอนฟิลด์ เริ่มต้นด้วยฟอร์มอันดุดันของ “หงส์แดง” ที่สามารถยิงประตูนำไปก่อนอย่างรวดเร็วถึง 2-0 ตั้งแต่ช่วง 6 นาทีแรก แต่หลังจากนั้นเกมกลับเป็นของทีมเยือน แอตเลติโก มาดริด ที่สามารถกลับมาตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ ซึ่งประตูตีไข่แตกของพวกเขาเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก และประตูตีเสมอเกิดขึ้นในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม

เมื่อสถานการณ์ทำท่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม และความผิดหวังเริ่มเข้าคืบคลานในหมู่แฟนบอลเจ้าบ้าน แต่แล้ว ฟาน ไดค์ ก็กลายเป็นฮีโร่ที่ช่วยชีวิตทีมไว้ ด้วยการพุ่งขึ้นโหม่งลูกเตะมุมเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาดในนาทีที่ 90+2 พา ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะอันล้ำค่าได้อย่างน่าประทับใจ

• คัมแบ็ก!เผย ‘มูรินโญ่’ โอเตตอบตกลงคุมเบนฟิก้าเรียบร้อย
• เอาทุกทาง!แฟนผีโวยหนักทีมขึ้นค่าตั๋วเกมเยาวชนกว่า 233%
• ‘สล็อท’ ป้อง ‘เวียร์ตซ์’ ส่วนสำคัญพาหงส์บินสูงแม้ไร้สกอร์-แอสซิสต์

หลังจบเกม กัปตันทีมชาวดัตช์ได้ออกมาเผยความรู้สึกว่า “เราออกสตาร์ทได้ดีมาก แต่ยอมรับว่า แอตเลติโก เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเขาทำได้ดีจนสามารถกลับมาเสมอได้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะหาทางเอาชนะให้ได้ และสุดท้ายเราก็ทำได้สำเร็จ”

เมื่อถูกถามถึงประตูชัยที่เจ้าตัวทำได้ ฟาน ไดค์กล่าวว่า “ผมเห็นโอกาสที่จะหลุดจากการประกบของกองหลัง และทันทีที่ผมมีช่องว่างเพียงเสี้ยววินาที ผมก็มั่นใจทันทีว่าต้องเป็นประตู”