Home 365kubx
LINE: @365KUBx

เพิ่มสถิติ!’บรูโน่’ ปลื้มยิงครบ 100 ลูกให้ผี

บรูโน่ แฟร์นานเดส กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยความรู้สึกสุดปลื้มหลังพาทีมเปิดบ้านเฉือนชนะเชลซี 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสายฝนและใบแดงที่เกิดขึ้นทั้งสองฝั่ง เกมนี้ถือเป็นค่ำคืนพิเศษของแข้งโปรตุกีส เมื่อเขาทำได้ถึงสองสถิติส่วนตัวสำคัญ

ยูไนเต็ดออกสตาร์ทเกมอย่างดุดัน ก่อนจะได้ประตูขึ้นนำจากบรูโน่ในนาทีที่ 18 ซึ่งเป็นประตูที่ 100 ของเขากับสโมสรในทุกรายการ และยังตรงกับการลงสนามในพรีเมียร์ลีกครบ 200 นัดพอดี ส่วนอีกหนึ่งประตูมาจากคาเซมิโร่ ช่วยให้ทีมคว้าชัยเป็นนัดที่สองของฤดูกาล

“ผลการแข่งขันสำคัญที่สุด เราไม่ได้คะแนนตามที่หวังในเกมก่อน ๆ แต่เกมนี้เรามีวินัยและแข็งแกร่งมากในการป้องกันเขตโทษ บีบให้เชลซีต้องเปิดบอลจากด้านข้าง การกดดันตั้งแต่ต้นเกมทำให้เราได้เปรียบจนพวกเขาได้ใบแดง”บรูโน่กล่าว

กัปตันทีมชาวโปรตุเกสยังกล่าวถึงใบแดงของคาเซมิโร่ว่า “มันไม่ได้เปลี่ยนแผนเรามากนัก เรายังปิดพื้นที่ตรงกลางได้ดี และกองหลังเรายอดเยี่ยมมากในกรอบเขตโทษ”

สำหรับสองสถิติสำคัญในเกมนี้ บรูโน่เผยว่า “แน่นอนว่าผมภูมิใจมาก ๆ กับสองสถิติใหญ่แบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ผมตั้งเป้าไว้เลยนะ เป้าหมายของผมมีแค่อย่างเดียวคือได้ลงเล่นเกมต่อไปเรื่อย ๆ เท่านั้น”

สำหรับ บรูโน่ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 19 ในประวัติศาสตร์สโมสรที่ยิงถึง 100 ประตู จากการลงเล่น 296 นัด เฉลี่ยเกือบทุก 3 เกมจะยิงได้ 1 ลูก

‘กราเฟนเบิร์ค’ ปลื้มบทบาทใหม่ได้รับอิสระเติมเกมรุก

ไรอัน กราเฟนเบิร์ค มิดฟิลด์ชาวดัตช์ของลิเวอร์พูล เผยความมั่นใจหลังโชว์ฟอร์มเด่น ยิงหนึ่ง จ่ายหนึ่ง พาทีมเปิดแอนฟิลด์เฉือนเอฟเวอร์ตัน 2-1 ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมยอมรับว่าการปรับแท็กติกในซีซั่นนี้ทำให้เขามีอิสระในการเติมเกมรุกมากขึ้น

ในเกมนี้ กราเฟนเบิร์ค ซัดประตูให้ “หงส์แดง” ขึ้นนำ 1-0 ก่อนจะจ่ายบอลให้ อูโก้ เอกิติเก้ ยิงประตูชัย 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะในเกมดาร์บี้แมตช์สุดเข้มข้นได้สำเร็จ การออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ของแข้งชาวดัตช์ถือว่าน่าประทับใจ โดยเขาทำไปแล้ว 2 ประตูและ 2 แอสซิสต์ ซึ่งรวมถึงประตูที่ยิงได้ในเกมพบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วย ผิดกับฤดูกาลก่อนที่ยิงไม่ได้เลยจากการลงเล่น 49 นัด

“โค้ชให้ความมั่นใจกับผมมาก ฤดูกาลนี้เราได้อิสระในแดนกลางมากขึ้น ฤดูกาลก่อนผมต้องยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ตำแหน่งค่อนข้างต่ำ แต่ตอนนี้ผมสามารถเติมเกมรุกได้มากขึ้นอย่างที่เห็นในเกมนี้ ผมคิดว่านี่คือจุดเด่นของผม และผมแฮปปี้มากที่ได้เล่นแบบนี้ รวมถึงดีใจที่ยิงประตูได้!”กราเฟนเบิร์คกล่าวหลังเกม

“ฤดูกาลก่อนผมยิงไม่ได้เลย แน่นอนว่าซีซั่นนี้ผมอยากยิงประตูและทำแอสซิสต์ให้มากขึ้น วันนี้ผมมีความสุขมากๆ”

ด้าน อาร์เน่ สล็อท กุนซือ ลิเวอร์พูล ก็พูดถึงการปรับแท็คติกที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพของกราเฟนเบิร์คว่า “นี่คือพัฒนาการของทีม เรา พยายามทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อรักษาจุดแข็งของเรา แต่ทีมคู่แข่งก็ปรับตัวเพื่อรับมือเราเช่นกัน ดังนั้นเราต้องพัฒนาต่อไป”

“เรามีนักเตะที่แตกต่างจากฤดูกาลก่อน บางครั้งเราปรับเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามคุณภาพของนักเตะที่มีเมื่อเทียบกับขุมกำลังในอดีต กราเฟนเบิร์ค มีจังหวะที่สามารถช่วยเกมรุกได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีที่คู่แข่งเพรสซิ่งเรา เขามีอิสระมากขึ้นเล็กน้อย ใช่”

‘สล็อท’ ชื่นชมทัศนคติแข้งหงส์หลังช่วยกันเฉือนท๊อฟฟี่ 2-1

ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สล็อท เปิดรัง แอนฟิลด์ เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในศึก พรีเมียร์ ลีก โดย “หงส์แดง” ได้ประตูจาก ไรอัน กราเฟนแบร์ค และ อูโก้ เอกิติเก้ ในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังนาที 58 เอฟเวอร์ตัน ตีไข่แตก ทำให้เกมเข้มข้นจนจบการแข่งขัน

“วันนี้เราต้องใช้ทัศนคติเพื่อคว้าชัยชนะอีกครั้ง มันอาจเป็นทัศนคติที่ต่างจากไม่กี่ครั้งก่อน แต่เรารู้ว่าเกมนี้จะยากแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อเรามีเวลาเตรียมตัวไม่มาก เราเล่นเกมที่ 3 ในรอบเจ็ดวัน และเจอกับคู่แข่งร่วมเมือง ซึ่งเป็นเกมที่เข้มข้นที่สุดใน 3 นัดนี้”สล็อท ให้สัมภาษณ์หลังเกม

“เมื่อร่างกายมีความสด ช่วง 45 นาทีแรก เราเล่นได้น่าเหลือเชื่อ”

“นอกจากคุณภาพของ เอฟเวอร์ตัน แล้ว เราเริ่มวิ่งจนหมดแรง แต่ทัศนคติของทีมไม่เคยหมด”

สล็อท ตัดสินใจส่ง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ลงสนามในครึ่งหลัง แต่ทั้งคู่ยังไม่สามารถเพิ่มสกอร์ได้ เขาอธิบายการจัดทีมว่า “เรารู้ว่าครึ่งหลังอาจเจอสถานการณ์ยากลำบาก ผมจึงจัดทีมโดยคำนึงถึงความพร้อมตลอดสัปดาห์”

ผิดพลาด!’ซานเชซ’ ขอโทษหลังโดนใบแดงต้นเกมทำสิงห์พ่ายผี

โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูตัวเก่งของเชลซี ออกมาขอโทษแฟนบอลผ่านโซเชียลมีเดีย หลังถูกใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 5 ของเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก ส่งผลให้ทีม “สิงห์บลูส์” ต้องบุกพ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง ซานเชซ พุ่งออกจากกรอบเขตโทษเพื่อสกัดบอลจากไบรอัน เอ็มเบอโม่ ปีกตัวเก่งของแมนฯ ยูไนเต็ด แต่กลายเป็นฟาวล์รุนแรงที่ผู้ตัดสินปีเตอร์ แบงค์ส ตีความว่าเป็นการปฏิเสธโอกาสทำประตูที่ชัดเจน สั่งไล่ออกทันที สร้างสถิติใบแดงเร็วที่สุดของเชลซีในยุคพรีเมียร์ลีก และเป็นอันดับสามเร็วที่สุดสำหรับผู้รักษาประตูในลีก

หลังจากนั้น เชลซีต้องปรับแผนแบบฉุกเฉิน โดยส่งฟิลิป ยอร์เกนเซ่น ลงเฝ้าเสาแทน และเปลี่ยนระบบเป็นกองหลัง 5 คน แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้ความได้เปรียบกดดันไม่ยั้ง นำ 2-0 จากประตูของบรูโน่ แฟร์นานเดส นาทีที่ 14 และคาเซมิโร่ นาทีที่ 37 ก่อนที่เทรโวห์ ชาโลบาห์ จะยิงปลอบใจให้เชลซีในนาทีที่ 80 แต่ก็ไม่ทัน คะแนนรวมจบที่ 2-1

“วันนี้เป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมต้องขอโทษทุกคนในทีมและแฟนบอลเชลซีอย่างจริงใจสำหรับเรื่องนี้” ซานเชซ โกล์สเปนวัย 27 ปี โพสต์ผ่านอินสตาแกรมหลังจบเกม

“ทั้งทีมต่อสู้อย่างหนักในครึ่งหลัง แต่เราก็ไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ผมจะเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้และกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม”

ด้านเอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมเชลซี ก็ให้สัมภาษณ์หลังเกมอย่างตรงไปตรงมา เมื่อถูกถามถึงความผิดพลาดของลูกทีม “ใช่ มันคงดีกว่าถ้าซานเชซปล่อยให้คู่แข่งยิงประตูแทนการทำฟาวล์แบบนั้น” มาเรสก้า กล่าว

“เรายังเหลือเวลาแข่งอีก 95 นาที ซานเชซเองก็รู้ดี แต่การตัดสินใจในเสี้ยววินาทีแบบนั้นมันยากจริงๆ”

“ถ้าถามผม ผมยอมให้ทีมโดนนำ 1-0 หลังจากเริ่มเกมแค่ 5 นาที มากกว่าเหลือผู้เล่นน้อยกว่าคู่แข่งแบบนี้แน่นอน”

‘มาเรสก้า’ ชี้ใบแดงต้นเกมทำแผนเปลี่ยนเผยถอด ‘พาลเมอร์’ เพราะเจ็บ

เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือทีมเชลซี ออกมาอธิบายถึงการตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 3 คนตั้งแต่ครึ่งแรก หลังทีมต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 4 ของเกมบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ “สิงห์บลูส์” 1-2

เชลซีเสียเปรียบตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตู ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 4 ทำให้ มาเรสก้า ต้องปรับแท็กติกทันที โดยส่ง ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น ลงมาเฝ้าเสาแทน และถอด เปโดร เนโต้ ออกเพื่อปรับระบบเป็นกองหลัง 5 คน พร้อมส่ง โตซิน อดาราบิโอโย่ ลงมาเสริมแนวรับ

“ใบแดงเปลี่ยนเกมตั้งแต่นาทีที่ 3 หลังจากนั้นเมื่อพวกเขาเหลือ 10 คนเท่ากัน เกมก็เปลี่ยนสำหรับเรา แต่เราจำเป็นต้องออกสตาร์ตให้ดีกว่านี้”มาเรสก้ากล่าว

“แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นเกมรุกด้วยผู้เล่น 5 คน ดังนั้นไอเดียของผมคือการรับด้วยผู้เล่น 5 คน คุณสามารถตั้งรับด้วย 4 คนได้ตอนที่เล่น 11 ต่อ 11 แต่เมื่อเราเหลือตัวน้อยกว่า เราต้องเพิ่มแนวรับเพื่อปิดพื้นที่ด้านข้าง”

นอกจากนั้น เชลซียังต้องเสีย โคล พาลเมอร์ ตั้งแต่นาทีที่ 32 โดย มาเรสก้าเลือกส่ง อันเดรย์ ซานโตส ลงมาแทน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าสาเหตุไม่ใช่แท็กติก แต่เป็นเพราะสภาพร่างกายของ พาลเมอร์ ไม่สมบูรณ์เต็มร้อย

“โคล ทดสอบร่างกายในตอนเช้าเพื่อดูว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ เขาไม่ได้ฟิต 100% แต่เขาอยากลงเล่นเพื่อทีม ความทุ่มเทถือว่าสุดยอดมาก แต่หลังจากเล่นไป 20 นาที เขารู้สึกว่ามันเกินไปสำหรับเขา”

“เราจำเป็นต้องเริ่มเกมให้ดีกว่านี้ เราไม่สามารถเสียใบแดงที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดตั้งแต่นาทีที่ 3 ได้ มันทำให้ทุกอย่างยากขึ้น”

ไฮไลท์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เชลซี 20/09/2025

ไฮไลท์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 2-1 เอฟเวอร์ตัน 20/09/2025

ไฮไลท์ฟุตบอล ลาลีกา เรอัล มาดริด 2-0 เอสปันญ่อล 20/09/2025

ไฮไลท์ฟุตบอล บุนเดสลีกา ฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-4 บาเยิร์น มิวนิค 20/09/2025

ไฮไลท์ฟุตบอล กัลโช่ เซเรียอา อูดิเนเซ่ 0-3 เอซี มิลาน 20/09/2025

ไฮไลท์ฟุตบอล กัลโช่ เซเรียอา เวโรน่า 1-1 ยูเวนตุส 20/09/2025

ไฮไลท์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ไบรท์ตัน 2-2 สเปอร์ส 20/09/2025