ไฮไลท์ฟุตบอลไทยลีก แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 22/09/2025
เมื่อใกล้ถึงวันหวยออก แฟนหวยหลายคนก็มักจะเริ่มเสาะหา “เลขเด็ด” กันจากหลากหลายช่องทาง ทั้งจากความฝัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งจากสถิติย้อนหลัง หลายครั้งตัวเลขเหล่านี้ก็ให้โชคจริง ๆ จนทำให้หลายคนติดตามทุกงวด สำหรับงวดวันที่ 16 พฤศจิกายน นี้ ก็มีหลายเหตุการณ์และเรื่องเล่าที่ถูกพูดถึงและถูกนำมาโยงกับตัวเลขอย่างน่าเหลือเชื่อ
มีการเล่าต่อกันมาว่า ชาวบ้านในจังหวัดนครราชสีมาได้ฝันเห็น “ช้างเผือกเดินเข้ามาในบ้าน” โดยช้างตัวนั้นมีลักษณะพิเศษคือมีงาสั้นข้างหนึ่ง และยืนอยู่ตรงเลขบ้านที่ 48/2 หลายคนจึงตีเป็นเลข 48 – 82 – 284 เชื่อว่าฝันลักษณะนี้เป็นนิมิตที่ดี หมายถึงโชคลาภหรือสิ่งมงคลที่จะเข้ามา
ปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งถือว่าใกล้วันหวยออกมาก ชาวบ้านบางแห่งเล่าว่าขณะลอยกระทง ได้เห็นตะเกียงลอยฟ้าตกลงมาในแม่น้ำแล้วพลันดับตรงเวลา 20.46 น. ทำให้หลายคนตีเลขเวลาเป็น 20 – 46 – 2046 ถือเป็นปรากฏการณ์ที่หลายคนเก็บไปเสี่ยงโชค

หากดูจากสถิติย้อนหลัง 10 ปี เลขท้ายสองตัวที่มักจะออกในงวดกลางเดือนพฤศจิกายนบ่อยที่สุดคือเลข 28, 46 และ 79 ส่วนเลขสามตัวที่เคยโผล่บ่อยคือ 482, 579 และ 946 นักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับการหมุนเวียนของตัวเลขในระบบ
ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์รถตู้รับส่งนักเรียนในจังหวัดสระบุรีเสียหลัก แต่โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ ตัวเลขทะเบียนคือ นข 1169 ทำให้หลายคนนำไปเสี่ยงโชค โดยเฉพาะเลข 169 – 69 – 16 ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง
เมื่อนำเรื่องราวทั้งหมดมาประกอบกันแล้ว พบว่ามีเลขที่น่าสนใจดังนี้
เลขเด่น 2 ตัว 16, 28, 46, 57, 75, 82
เลขเด่น 3 ตัว 169, 284, 482, 507, 579, 946

หลายคนอาจเลือกเก็บเลขที่ตรงใจ หรือนำไปสลับกันเองตามความเชื่อ เพราะเลขเด็ดไม่มีกฎตายตัว อยู่ที่โชคลาภและจังหวะของแต่ละคน
สำหรับคอหวย ควรใช้วิจารณญาณ เลือกเสี่ยงโชคพอประมาณ ไม่เกินกำลัง และที่สำคัญคือมองการเล่นหวยเป็นความบันเทิง ไม่ใช่ทางลัดรวย ที่มาทั้งหมดมาจากหลากหลายที่ ทั้งจากความฝัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประเพณี รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน แม้จะไม่มีใครสามารถบอกได้แน่ชัดว่าเลขใดจะถูกรางวัล แต่การตีเลขจากเรื่องเล่าและสัญญาณต่าง ๆ ก็เป็นสีสันที่ทำให้การลุ้นหวยสนุกยิ่งขึ้น
มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นประเด็นหลังถูกจับนั่งสำรองในเกมลาลีกาที่ บาร์เซโลน่า เปิดบ้านถล่ม เคตาเฟ่ 3-0 แม้เพิ่งโชว์ฟอร์มร้อนแรงยิงสองประตูในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เฉือนชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อกลางสัปดาห์
รายงานจาก ดิ แอธเลติก เผยว่า ฮันซี่ ฟลิค กุนซือบาร์ซ่า ตัดสินใจดร็อปแรชฟอร์ดเป็นการลงโทษ หลังเจ้าตัวมาซ้อมสายก่อนเกม โดยฟลิคยึดกฎเดียวกันกับทุกคนในทีม ไม่ว่าจะเป็น ฌูลส์ คุนเด้, อินญากี้ เปนญ่า หรือแม้แต่ ราฟินญ่า ที่เคยโดนมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน
แมตช์นี้ บาร์เซโลน่ายังคงใช้สนาม เอสตาดิ โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นรังเหย้าชั่วคราวระหว่างปรับปรุง คัมป์ นู โดยฟลิคปรับทีมจากนัดกลางสัปดาห์ ส่ง เฟร์ราน ตอร์เรส และ ดานี่ โอลโม่ ลงแทน แรชฟอร์ด กับ เฟร์มิน โลเปซ ซึ่งตอร์เรสตอบแทนความไว้วางใจด้วยการเหมาสองประตูตั้งแต่ครึ่งแรก
ครึ่งหลัง ฟลิค ส่ง แรชฟอร์ด ลงแทน ราฟินญ่า และแนวรุกทีมชาติอังกฤษก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อจ่ายให้โอลโม่ยิงประตูที่สาม ปิดท้ายชัยชนะเหนือเคตาเฟ่ พร้อมเรียกเสียงปรบมือจากแฟนบอล
เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์คนสำคัญของอาร์เซน่อล เปิดเผยเบื้องหลังบทสนทนาในห้องแต่งตัวช่วงพักครึ่ง ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ทีมกลับมาตีเสมอแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างสุดระทึก
ในเกมพรีเมียร์ลีกที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม “ปืนใหญ่” เป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่กลับตกเป็นฝ่ายตามหลัง 0-1 จากประตูของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ในครึ่งแรก
อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลัง อาร์เซน่อลเดินหน้าบุกอย่างหนัก และมาได้ประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ส่งผลให้แบ่งแต้มกันไปแบบสุดมัน
ไรซ์ เผยว่า มิเกล อาร์เตต้า ไม่ได้ปรับแท็กติกซับซ้อนในช่วงพักครึ่ง แต่เลือกใช้คำพูดเรียบง่ายเพื่อปลุกใจลูกทีมให้เดินหน้าต่อ
“ผมรู้สึกได้เลยว่ามีความหงุดหงิดในสนาม เพราะเราครองบอลได้เยอะ แต่เจาะพวกเขาไม่ได้จริง ๆ” ไรซ์ กล่าว
“สิ่งที่โค้ชพูดคือให้เดินหน้าต่อ กดดันต่อ และบุกใส่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งห้านาทีแรกของครึ่งหลังเราก็สร้างโอกาสได้ทันที”
“พวกเขาเปลี่ยนมาใช้ระบบ 5-4-1 ซึ่งผมไม่เคยเห็นซิตี้ทำแบบนี้มาก่อน มันแสดงให้เห็นว่าเรากดดันได้จริง และผลเสมอก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเรา”
“ผมคิดว่าเราทำให้คู่แข่งเริ่มให้ความเคารพเรามากขึ้น พวกเขารู้ถึงคุณภาพของเราทั้งทีม”
“ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผมยังไม่เคยเห็นเราครองเกมเหนือซิตี้ได้แบบนี้เลย ถ้าแพ้กลับออกมา ผมคงเสียดายสุด ๆ”
อาร์เน่ สล็อท นายใหญ่ทีมลิเวอร์พูล ยืนยันอย่างชัดเจนว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และแข้งตัวหลักอีก 4 รายจะไม่ได้ลงสนามในเกมคาราบาว คัพ รอบสาม ที่จะพบกับเซาแธมป์ตัน คืนวันอังคารนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้แข้งสำรองและดาวรุ่งได้โชว์ฝีเท้า
หลังจาก “หงส์แดง” เปิดบ้านเฉือนเอาชนะเอฟเวอร์ตัน 2-1 ในศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ทีมเก็บชัยชนะต่อเนื่องเป็นนัดที่ 6 จากทุกรายการ สล็อทมองว่าถึงเวลาที่ต้องหมุนเวียนนักเตะเพื่อรักษาความสดและความสมดุลของทีม
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมทีมที่เล่นบอลยุโรปต้องมีขุมกำลังเชิงลึก เพราะคุณต้องลงเล่นถี่ยิบ มันไม่ใช่ข้ออ้าง แต่เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ” กุนซือดัตช์กล่าว
เขายืนยันว่าแข้งที่ลงเล่นเต็ม 90 นาทีติดต่อกันสามนัด ได้แก่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, อิบราฮิม่า โคนาเต้, ซาลาห์, ไรอัน กราเฟนเบิร์ค และ โดมินิก โซบอสซ์ไล จะไม่ได้มีชื่อในเกมกลางสัปดาห์นี้
ในเกมล่าสุดกับเอฟเวอร์ตัน สล็อทได้ปรับเปลี่ยนผู้เล่นถึง 4 ตำแหน่งจากชุดที่ชนะแอตเลติโก้ มาดริดในแชมเปี้ยนส์ลีก โดยส่ง คอเนอร์ แบรดลี่ย์, มิลอส เคอร์เคซ, อูโก้ เอกิติเก้ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงเป็นตัวจริง
สำหรับเกมคาราบาว คัพ รอบสามนี้ ถือเป็นโอกาสทองของแข้งสำรองและดาวรุ่ง ไม่ว่าจะเป็น แบรดลี่ย์, เฟเดริโก้ เคียซ่า หรือ เทรย์ ไนโอนี่ ที่มีลุ้นออกสตาร์ท