เดือน: สิงหาคม 2025

เชลซีเตรียมพิจารณาข้อเสนอยืมตัว ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะ หลัง แมตต์ ลอว์ จากเดอะ เทเลกราฟ รายงานว่าสโมสรตั้งเป้าปล่อยผู้เล่นออกไปถึง 8 รายภายในสองสัปดาห์นี้

แม้ฤดูกาลก่อน สเตอร์ลิ่ง จะถูกปล่อยให้ อาร์เซน่อล ยืมใช้งาน และมีความพยายามหาทางออกแบบถาวร แต่การยืมตัวอีกครั้งยังเป็นทางเลือกที่เปิดกว้าง โดย ฟูแล่ม แสดงความสนใจอย่างจริงจัง ขณะที่แข้งวัย 30 ปีต้องการค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกต่อ โดยเฉพาะในกรุงลอนดอนซึ่งครอบครัวของเขาตั้งรกรากอยู่

สเตอร์ลิ่งยังเหลือสัญญากับ “สิงห์บลูส์” อีก 2 ปี และกำลังฝึกซ้อมร่วมกับกลุ่มนักเตะที่ถูกแยกออกจากทีมชุดใหญ่ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า โดยแหล่งข่าวระบุว่าเจ้าตัวยังคงมีทัศนคติที่ดีและเป็นมืออาชีพ แม้อนาคตยังไม่ชัดเจน

• ไม่ยุติธรรม!’เลวานดอฟสกี้’ สับบัลลงดอร์รางวัลการตลาด
• จะให้เล่นยังไง!’มอยส์’ จวกเปาเป่าจุดโทษให้ลีดส์สุดค้านสายตา
• ไม่ถอดใจ!’เคียซ่า’ แจงชัดขอสู้ต่อกับหงส์หวังพิสูจน์ตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักคือค่าเหนื่อยที่สูงถึง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งฤดูกาลก่อน เชลซีต้องช่วยจ่ายบางส่วนในการปล่อยเขาไปอาร์เซน่อล โดยซีซั่นนั้นเขาลงเล่น 28 นัด ยิง 1 ประตู และทำ 5 แอสซิสต์

นอกจากสเตอร์ลิ่งแล้ว เชลซียังพยายามปล่อย นิโคลัส แจ็คสัน, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, อักเซล ดิซาซี่, เรนาโต้ เวก้า, คาร์นี่ ชุคเวเมก้า, เบน ชิลเวลล์ และ ไทริค จอร์จ ออกจากทีม โดยมีแผนเสริมทัพทันทีหากสามารถปล่อย แจ็คสัน หรือ เอ็นคุนคู ได้ โดยเป้าหมายคือ ชาบี้ ซิมอนส์ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่

แจ็คสันไม่มีชื่อในเกมเปิดสนามพรีเมียร์ลีก และถูกแจ้งว่าไม่อยู่ในแผนของ มาเรสก้า โดยมี นาโปลี, แอสตัน วิลล่า, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน ให้ความสนใจ

ขณะที่ เวก้า ได้รับความสนใจจาก บีญาร์เรอัล หลังดีลกับ แอตเลติโก้ มาดริด ล่ม ส่วน ชุคเวเมก้า ต้องการกลับไป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เคยยืมตัวไปเล่นเมื่อครึ่งหลังของฤดูกาลก่อน

เชลซีมั่นใจว่าหลังตลาดปิด พวกเขาจะสามารถทำเงินจากการขายนักเตะได้ราว 300 ล้านปอนด์ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเสริมทัพอย่างมีนัยสำคัญ

เฟเดริโก้ เคียซ่า ปีกทีมชาติอิตาลี แสดงจุดยืนชัดเจนต่ออนาคตของเขากับลิเวอร์พูล โดยเลือกที่จะอยู่ต่อและต่อสู้เพื่อตำแหน่งในทีม แม้เคยมีช่วงเวลาที่อนาคตดูไม่แน่นอน

ตามรายงานจาก ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวชื่อดังด้านตลาดซื้อขาย เคียซ่าและตัวแทนของเขาได้แจ้งความต้องการอย่างชัดเจนกับสโมสรว่าเขาไม่มีแผนย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเชื่อมั่นในโปรเจกต์ของ อาร์เน่ สล็อท และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอล

• ไม่ยุติธรรม!’เลวานดอฟสกี้’ สับบัลลงดอร์รางวัลการตลาด
• จะให้เล่นยังไง!’มอยส์’ จวกเปาเป่าจุดโทษให้ลีดส์สุดค้านสายตา
• ขาดแค่สกอร์!’บรูโน่’ มองโลกแง่ดีแม้พ่ายปืนนัดเปิดซีซั่น

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผ่านมา เคียซ่าเคยพิจารณาการย้ายทีมเพื่อโอกาสลงเล่นที่มากขึ้น หลังจากลิเวอร์พูลปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดที่ยื่นเข้ามาเพื่อขอซื้อตัว หลุยส์ ดิอาซ และเจ้าตัวถูกตัดชื่อออกจากทัวร์ปรีซีซั่นที่เอเชีย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ ตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ทำให้พื้นที่ในแนวรุกเปิดกว้างขึ้น และเคียซ่ามองเห็นโอกาสใหม่ในการพิสูจน์ตัวเอง

แหล่งข่าวระบุว่า เคียซ่ามีความมุ่งมั่นที่จะอยู่กับทีมต่อไป และพร้อมแข่งขันเพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงในยุคใหม่ของลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของสล็อท

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเก๋าของ บาร์เซโลน่า ออกมาแสดงความเห็นว่า รางวัล บัลลงดอร์ มีมิติของการตลาดมากกว่าความยุติธรรม พร้อมยกย่องเพื่อนร่วมทีมอย่าง ลามีน ยามาล, ราฟินญ่า และ เปดรี ว่ามีศักยภาพเป็นตัวเต็งคว้ารางวัลในอนาคต

การประกาศผล บัลลงดอร์ ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือน โดย บาร์เซโลน่า ทีมแชมป์ ลาลีก้า มีนักเตะถึง 4 รายที่ติดโผ 30 ผู้เข้าชิงรางวัลนี้ รวมถึงตัวของ เลวานดอฟสกี้ เอง

“จากวิธีที่เราเล่นฟุตบอลตลอดทั้งฤดูกาล ผมคิดว่าเรามีผู้เล่นหลายคนที่สามารถเป็นตัวเต็งสำหรับรางวัลแบบนี้” เลวานดอฟสกี้ กล่าว

• อยากขาย!สิงห์บอกปัดข้อเสนอยืมตัว ‘เอ็นคุนคู’ จากเสือใต้
• จะให้เล่นยังไง!’มอยส์’ จวกเปาเป่าจุดโทษให้ลีดส์สุดค้านสายตา
• ขาดแค่สกอร์!’บรูโน่’ มองโลกแง่ดีแม้พ่ายปืนนัดเปิดซีซั่น

“ผมไม่แน่ใจว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่าง ฟีฟ่า เดอะ เบสต์ กับ บัลลงดอร์ แต่สิ่งที่ผมจะบอกคือ ฟีฟ่า เดอะ เบสต์ เป็นรางวัลที่ดูยุติธรรมกว่า ส่วน บัลลงดอร์ นั้น ผมมองว่าเป็นเรื่องของการตลาดมากกว่า คุณคงเข้าใจสิ่งที่ผมหมายถึง”

เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกที่ไม่เคยคว้า บัลลงดอร์ โดยเฉพาะในปี 2020 สมัยที่เขาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเจ้าตัวเป็นตัวเต็งแต่สุดท้ายงานถูกยกเลิกเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 เลวานดอฟสกี้ ตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “รางวัลปีไหนล่ะ? ไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์นั้นเลย มันมีทั้งเรื่องของฟุตบอลและบางอย่างที่เกี่ยวกับการเมือง”

เอฟเวอร์ตัน เปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกด้วยความขมขื่น หลังบุกพ่าย ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-1 จากจุดโทษปริศนาในนาที 82 ที่กลายเป็นประเด็นร้อนทันทีหลังจบเกม

เกมที่เอลแลนด์ โร้ดดำเนินไปอย่างสูสีจนเข้าสู่ช่วงท้ายยูงทอง ได้โอกาสยิงไกล บอลแฉลบแขน เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ กองหลังทีมเยือน ก่อนที่ผู้ตัดสิน คริส คาวานาฟ จะเป่าชี้จุดโทษทันที โดยมี VAR ภายใต้การดูแลของ จอห์น บรู๊คส์ ยืนยันคำตัดสิน

• อยากขาย!สิงห์บอกปัดข้อเสนอยืมตัว ‘เอ็นคุนคู’ จากเสือใต้
• ‘มาเรสก้า’ เสียดายสิงห์ควรชนะ มั่นใจต่อไปทีมจะดีขึ้น
• ขาดแค่สกอร์!’บรูโน่’ มองโลกแง่ดีแม้พ่ายปืนนัดเปิดซีซั่น

เดวิด มอยส์ กุนซือเอฟเวอร์ตัน ให้สัมภาษณ์หลังเกมด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน “มันไม่ใช่สัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมของทีมงานผู้ตัดสิน ผมผิดหวังสุดๆ ไม่รู้ว่าทาร์คอฟสกี้จะทำอะไรได้ในจังหวะนั้น นอกจากตัดมือเขาทิ้ง”

“VAR บอกว่าเขาโน้มแขนเข้าหาบอล แต่กฎอนุญาตให้ทำแบบนั้นได้ แขนเขาแนบลำตัวชัดเจน”

ด้านกูรูฟุตบอลมีความเห็นแตกต่างกัน เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ แกรี่ เนวิลล์ สนับสนุนคำตัดสินว่าเป็นจุดโทษที่ถูกต้อง ขณะที่ คริส ซัตตัน กลับมองว่าเป็นการตัดสินที่ “อื้อฉาว”

ดาเนียล ฟาร์เก้ กุนซือลีดส์ ยูไนเต็ด กล่าวอย่างระมัดระวัง “ระหว่างเกม ผมรู้สึกว่ามันคือจุดโทษ อารมณ์ของแฟนบอลเราส่งผลมาก แต่ผมยังไม่ได้ดูภาพช้า หวังว่าผู้ตัดสินจะเป่าถูกต้อง”