Home 365kubx
LINE: @365KUBx

เดอ บรอยน์ ชี้ชัด! “ฟาบินโญ่” คือจอมทัพที่รับมือยากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางระดับโลกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เปิดเผยถึงนักเตะที่สร้างความลำบากใจให้เขามากที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมากับทัพ “เรือใบสีฟ้า” โดยเขาเลือก ฟาบินโญ่ อดีตกองกลางตัวรับของ ลิเวอร์พูล เป็นอันดับหนึ่ง

แม้จะกำลังมีข่าวลือเตรียมย้ายออกจากถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม หลังจบฤดูกาลนี้ และตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรอย่าง นาโปลี หรือ ชิคาโก้ ไฟร์ แต่ก่อนจะโบกมือลา แข้งชาวเบลเยียมวัย 33 ปี ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ ไมค์ แม็คกราธ นักข่าวจาก เทเลกราฟ ถึงคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเผชิญหน้า

เดอ บรอยน์ ให้เหตุผลที่เลือกฟาบินโญ่ว่า “ฟาบินโญ่ แข็งแกร่งมากในช่วงเวลาที่เขาเล่นกับ เฮนเดอร์สัน และ มิลเนอร์ พวกเขาคุมพื้นที่ได้ดีมาก และเล่นด้วยความดุดัน”

นอกจากนี้ เดอ บรอยน์ ยังได้กล่าวถึงอีกหนึ่งนักเตะที่สร้างความแตกต่างในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ นั่นก็คือ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ อดีตกองกลางของ เชลซี โดยระบุว่า “ก็องเต้ตัวเล็ก แต่เขาก็ยังสามารถคุมพื้นที่ได้มาก เขามีลูกล่อลูกชนที่ดี” พร้อมเสริมว่า “กองกลางตัวรับส่วนใหญ่จะบึกบึนและเชื่องช้า แต่ก็องเต้มีความเร็ว เขาเป็นนักเตะที่แตกต่างออกไป”

ซาลาห์ ผงาดคว้าแข้งยอดเยี่ยม FWA สมัยที่ 3 โหวตถล่มทลาย

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ได้รับการประกาศให้เป็น นักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปี ของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษ (FWA) ประจำฤดูกาล 2024/25 อย่างเป็นทางการ นับเป็นการคว้ารางวัลนี้เป็นครั้งที่ 3 ในอาชีพของเขา โดยก่อนหน้านี้เคยได้รับในปี 2017/18 และ 2021/22

การตัดสินรางวัลนี้มาจากการโหวตของสมาชิก FWA ทั้งสิ้น 918 คน และ ซาลาห์ ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นถึง กว่า 90% เอาชนะเพื่อนร่วมทีมอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เข้ามาเป็นอันดับสอง โดยไม่มีการเปิดเผยคะแนนของ ฟาน ไดค์ แต่เป็นที่ชัดเจนว่านี่คือชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดในรอบศตวรรษของรางวัลนี้

ฤดูกาล 2024/25 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ซาลาห์ โดยเขาทำไปแล้ว 33 ประตู กับ 23 แอสซิสต์ จากทุกรายการ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาและประสิทธิภาพอันโดดเด่นทำให้เขาเป็นกำลังสำคัญของทีมตลอดทั้งฤดูกาล

ซาลาห์ ได้กล่าวถึงความรู้สึกของเขาหลังจากได้รับรางวัลว่า “ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลนี้ ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่า โอเค ฉันจะเล่นได้อีกครั้งไหมนะ ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะเล่นด้วยฟอร์มที่ดีได้อีกรึเปล่า” เขากล่าวเสริมว่า “จากนั้นผมก็คิดว่า โอเค มาหาคำตอบกันเถอะ แต่นายจำเป็นต้องทำงานให้หนักและเป็นแบบอย่างที่ดีด้วยนะ ผมก็แค่ทำงานของตัวเอง และผมคิดว่าผมทำได้ดีมากๆ เลยล่ะ” คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่มุ่งมั่นและการทำงานหนักของนักเตะ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดอีกครั้งในฤดูกาลนี้

บาเยิร์น มิวนิค ส่องฟอร์ม มิโตมะ เตรียมเช็คบิลซัมเมอร์นี้

บาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี กำลังจับตามอง คาโอรุ มิโตมะ ปีกจอมเลื้อยทีมชาติญี่ปุ่นของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน อย่างใกล้ชิด เพื่อดึงตัวมาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้

รายงานจาก สปอร์ต บิลด์ ระบุว่า “เสือใต้” ส่งแมวมองไปติดตามฟอร์มของ มิโตมะ วัย 28 ปี หลายครั้งแล้ว โดยคาดการณ์ว่าค่าตัวของนักเตะรายนี้จะอยู่ที่ประมาณ 40-45 ล้านยูโร (ประมาณ 1,480-1,665 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นราคาที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับศักยภาพและฟอร์มการเล่นของเจ้าตัว

มิโตมะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาล 2024/25 โดยยิงไปแล้ว 11 ประตู พร้อม 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 40 นัดรวมทุกรายการให้กับ “นกนางนวล” ซึ่งเป็นผลงานที่น่าประทับใจและดึงดูดความสนใจจากสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป โดยเฉพาะบาเยิร์นที่ต้องการเสริมความแข็งแกร่งในแนวรุก

ปัจจุบัน มิโตมะ ยังเหลือสัญญากับไบรท์ตันถึงเดือนมิถุนายน ปี 2027 การย้ายทีมครั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างทั้งสองสโมสร และความต้องการของนักเตะเอง หาก บาเยิร์น สามารถปิดดีลนี้ได้สำเร็จ จะถือเป็นการเสริมทัพที่น่าจับตาและเพิ่มมิติในเกมรุกของทีมได้อย่างแน่นอน

ไฮไลท์ฟุตบอล บุนเดสลีกา ไฮน์เดนเฮลม์ 2-2 เอลเวอร์เบริ์ก 22/05/2025

ไฮไลท์ฟุตบอลไทย SHOPEE CUP บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3)3-3(2) คองอัน ฮานอย 22/05/2025

บรูโน่ สุดช้ำ แมนฯ ยูฯ พลาดแชมป์ ยูโรปา ลีก ลั่นสู้เพื่อศักดิ์ศรีนัดส่งท้าย

บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมจอมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาถึงความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-1 ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2024/25

ผลงานในพรีเมียร์ลีกที่น่าผิดหวัง ทำให้ “ปีศาจแดง” ตั้งความหวังไว้สูงกับการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก เพื่อกอบกู้สถานการณ์ แต่สุดท้ายความฝันก็ไม่เป็นจริง ทำให้พวกเขาต้องกลับมามุ่งมั่นกับเกมพรีเมียร์ลีกนัดปิดท้ายฤดูกาลที่จะพบกับ แอสตัน วิลล่า ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมนี้

บรูโน่ แฟร์นันด์ส กล่าวถึงความรู้สึกหลังเกมว่า “วันนี้เป็นวันที่ยากลำบากอย่างยิ่งสำหรับพวกเราทุกคน เป้าหมายเดียวของเราคือการคว้าชัยชนะในเกมนี้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่มันกลับไม่เป็นไปตามที่เราหวังไว้เลย และนั่นคือความเจ็บปวดอย่างที่สุด”

เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า “ผมมาอยู่ที่นี่เพื่อรับใช้สโมสรแห่งนี้ และพวกเราทุกคนจะมุ่งมั่นที่จะจบฤดูกาลด้วยชัยชนะเพื่อความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของพวกเราเอง”

 

สเปอร์ส ซิวแชมป์ ยูโรป ลีก สมัย 3 โค่น แมนยู 1-0 “พอสเตโคกลู” ปลื้ม

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สร้างประวัติศาสตร์ยุติการรอคอยแชมป์ยาวนานถึง 17 ปี หลังผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2024/25 ได้สำเร็จ ด้วยการเฉือนเอาชนะคู่ปรับร่วมลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างสุดมันส์ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศที่สนาม ซาน มาเมส เมืองบิลเบา ประเทศสเปน เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ประตูชัยสุดสำคัญของ สเปอร์ส มาจากฝีเท้าของ เบรนแนน จอห์นสัน ในนาทีที่ 42 ส่งผลให้ “ไก่เดือยทอง” คว้าถ้วยยุโรปรายการนี้เป็นสมัยที่สาม ต่อจากความสำเร็จในปี 1971/72 และ 1983/84 ปิดฉากยุคมืดที่ปราศจากโทรฟี่อย่างงดงาม

หลังเกม แอนจ์ พอสเตโคกลู ผู้จัดการทีม “ไก่เดือยทอง” วัย 59 ปี เปิดใจด้วยความรู้สึกโล่งใจว่า “ผมรู้ว่าถ้วยนี้มีความหมายต่อสโมสรแห่งนี้มากเพียงใด การที่ต้องทนรอคอยมานานขนาดนี้ ยิ่งทำให้การทำลายวงจรนี้เป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีก ผมสัมผัสได้ถึงความประหม่าของทุกคนในสโมสร และคุณจะไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกนั้นได้เลย จนกว่าเราจะปลดแอกตัวเองจากมันได้”

นอกจากนี้ กุนซือชาวออสเตรเลียยังเผยถึงเบื้องหลังการโฟกัสถ้วย ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลนี้ หลังจากผลงานในพรีเมียร์ลีกไม่เป็นไปตามเป้า “ผมตัดสินใจตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมแล้วว่า นี่คือถ้วยที่เราต้องคว้ามาให้ได้ ผมมีความรู้สึกว่าเราสามารถเป็นแชมป์ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การมีถ้วยแชมป์ติดมือ ย่อมดีกว่าการไม่ได้อะไรเลย” ความสำเร็จครั้งนี้จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์และการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของ พอสเตโคกลู ที่นำพาสเปอร์สกลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง

แมนยู ชวดแชมป์ ยูโรปา อโมริมลั่น ท้าบอร์ดปลดหากไม่พอใจ

รูเบน อโมริม กุนซือมากฝีมือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นเป้าสนใจหลังนำทัพ “ปีศาจแดง” พ่ายให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในศึกยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2024/25 ทำให้พลาดโอกาสคว้าถ้วยรางวัลและโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม อโมริม ได้ออกมาแถลงยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมท้าทายให้บอร์ดบริหารพิจารณาปลดเขาหากไม่พอใจกับผลงาน

หลังจบเกม อโมริม ให้สัมภาษณ์ด้วยความเจ็บปวด โดยเขามองว่าทีมของตนเล่นได้เหนือกว่า สเปอร์ส อย่างชัดเจน แต่ปัญหาคือไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้ “ผมไม่คุยถึงอนาคต คืนนี้เราต้องจัดการกับความเจ็บปวดที่แพ้เกมนี้ ผมคิดว่ามันชัดเจนว่าเราเป็นทีมที่เหนือกว่า แต่เรายิงประตูไม่ได้ นักเตะพยายามทุกอย่างแล้วที่จะชนะเกม” กุนซือชาวโปรตุกีสกล่าว พร้อมเสริมว่านักเตะหลายคนมีโอกาสยิงประตู แต่ผู้รักษาประตูของ สเปอร์ส ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม “ผมมั่นใจในตัวนักเตะของผม ปัญหาไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักเตะคนใดคนหนึ่ง”

การพลาดโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนการเสริมทัพของ แมนยูฯ ซึ่ง อโมริม ยอมรับว่าทีมจะต้องปรับแผนการตลาด “เรามีสองแผนในการจ่ายตลาด เราต้องเข้าใจว่ามันยากที่ไม่ได้เล่นถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก เราต้องใช้อีกแผน เราต้องดีขึ้นในพรีเมียร์ลีก มันเป็นสิ่งที่เราโฟกัส” เขากล่าว พร้อมยืนยันว่าทีมจะยังคงพัฒนาต่อไปแม้จะไม่ได้เล่นในรายการใหญ่ที่สุดของยุโรป “มีบางเกมที่ผมบอกว่าเราเล่นเกมรับได้แย่ แต่ไม่ใช่วันนี้ เรายังไม่เพอร์เฟค เราต้องพัฒนาต่อไป แต่ผมมั่นใจในตัวนักเตะ”

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ อโมริมยังคงยืนยันในแนวทางการทำงานของตนเอง และจะไม่ขอลาออกจากตำแหน่ง แต่เขาก็พร้อมที่จะอำลาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด หากสโมสรไม่ต้องการเขาแล้ว “ตอนนี้ผมไม่คิดปกป้องตัวเอง มันไม่ใช่สไตล์ของผม ผมไม่มีอะไรอวดแฟนๆ ผมจำเป็นต้องพูดความจริง” อโมริม กล่าวทิ้งท้าย “ผมเปิดกว้างเสมอ หากบอร์ดและแฟนๆรู้สึกว่าผมไม่ใช่ ผมจะไปจากทีมในวันพรุ่งนี้ แต่ผมจะไม่ลาออก ผมมั่นใจในงานของผม อย่างที่คุณเห็น ผมจะไม่เปลี่ยนแนวทางการคุมทีม”

ไฮไลท์ฟุตบอล ยูโรป้า ลีก สเปอร์ส 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด 21/05/2025

‘แม็กไกวร์’ ยันเล่นได้ทุกตำแหน่งแต่หวังไม่ต้องเล่นกองหน้า

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศพร้อมทุ่มเทเต็มที่ในทุกตำแหน่งเพื่อทีม ในศึกนัดชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก แต่เจ้าตัวแอบหวังว่าจะไม่ต้องขึ้นไปเล่นกองหน้าเพื่อทวงสกอร์คืนในเกมสำคัญนี้

ในการแถลงข่าวก่อนเกม แม็กไกวร์ วัย 32 ปี กล่าวติดตลกเคียงข้างผู้จัดการทีม รูเบน อโมริม ว่า “ผู้จัดการให้ผมฝึกเลี้ยงบอลเหมือนปีกทุกเซสชั่น!” ก่อนเผยว่า “ไม่จริงหรอก ที่ผ่านมา ผมเคยขึ้นไปรับบอลในตำแหน่งปีกและครอสบอลให้ คาเซมิโร่ ยิงประตูใส่ บิลเบา มาแล้ว”

“ผมเคยต้องขึ้นไปยืนแดนหน้าบ้างในช่วงท้ายเกม แต่หวังว่าในนัดชิงพรุ่งนี้ ผมจะไม่ต้องทำแบบนั้น ผมอยากเล่นในตำแหน่งถนัดของตัวเอง เพื่อรักษาสกอร์นำของทีมมากกว่า แม้จะพร้อมช่วยเกมรุก แต่ผมมีความสุขที่สุดเมื่อได้เล่นเซ็นเตอร์แบ็ก” แม็กไกวร์ กล่าว

กองหลังทีมชาติอังกฤษยังเปิดใจถึงฟอร์มส่วนตัวและทีมในฤดูกาลนี้ว่า “ผมดีใจที่ได้กลับมาลงเล่นสม่ำเสมอ ฤดูกาลนี้ผมได้ลงเยอะ แต่ผมไม่สนใจคำชื่นชมหรือคำวิจารณ์ในสื่อมากนัก เมื่อคุณเล่นให้สโมสรอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด สัปดาห์หนึ่งคุณอาจเป็นฮีโร่ แต่อีกสัปดาห์อาจกลายเป็นตัวร้าย ผมแค่โฟกัสที่ทำผลงานให้ดีในแต่ละนัด”

“ในพรีเมียร์ ลีก เราไม่ดีพอ แต่ในยูโรป้า ลีก เราแสดงให้เห็นถึงฟอร์มระดับสูง และพิสูจน์ว่าเราสามารถเอาชนะได้ทุกทีม” แม็กไกวร์ ทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่นก่อนเกมชี้ชะตา

อยากได้!’ซน’ ลั่นพร้อมพาท็อตแน่มคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก

ซน ฮึง มิน กัปตันทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ประกาศกร้าวก่อนเกมชิงชนะเลิศยูโรป้าลีกในคืนวันพุธนี้ โดยตั้งเป้าพา “ไก่เดือยทอง” คว้าแชมป์เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้สโมสร หลังจากที่ทีมยังไม่เคยสัมผัสแชมป์ใดๆ ในรอบ 10 ปีที่เขาค้าแข้งกับทีม

“มันจะเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์แน่นอน ผมอยู่กับทีมมา 10 ปีแล้ว และผมอยากคว้าแชมป์ ซึ่งไม่มีใครทำได้ในช่วงเวลานั้น” ซน กล่าวในการให้สัมภาษณ์ “ถ้าเราคว้าแชมป์ได้ มันจะเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนประวัติศาสตร์ และเราจะเดินหน้าต่อเพื่อคว้าแชมป์อื่นๆ”

ดาวเตะวัย 32 ปีเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ และยืนยันว่าร่างกายพร้อมสำหรับเกมสำคัญนี้ “ผมพร้อมแล้ว ผมกลับมาจากอาการเจ็บ และได้ลงเล่นในเกมเจอพาเลซและวิลล่า ซึ่งผมเล่นได้ถึง 70 นาทีในเกมหลัง ร่างกายผมพร้อม และเพื่อนร่วมทีมทุกคนก็พร้อมสำหรับเกมใหญ่ที่สุดของฤดูกาล”

แม้ว่าซีซั่นหน้าจะเป็นปีสุดท้ายในสัญญาของเขากับสเปอร์ส แต่ซนปฏิเสธที่จะมองว่านี่คือโอกาสสุดท้ายในการคว้าแชมป์กับทีม “คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเราจะได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกหรือเข้าชิงในฤดูกาลหน้า อนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่โอกาสตอนนี้คือของจริง ผมโฟกัสแค่เกมวันพรุ่งนี้เพื่อคว้าแชมป์และฉลองกับเพื่อนร่วมทีม”

‘บรูโน่’ ปลุกใจแข้งผีต้องสู้คว้าแชมป์ทุกถ้วยเริ่มจากยูโรป้า ลีก

บรูโน่ แฟร์นานเดส กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระตุ้นทีมให้กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ด้วยการลุ้นแชมป์ในทุกถ้วย เริ่มจากโอกาสคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ในนัดชิงชนะเลิศกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ค่ำวันพุธนี้ (21 พ.ค. 2568) ที่บิลเบา ซึ่งเดิมพันไม่เพียงแค่ถ้วยรางวัล แต่ยังรวมถึงตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

แม้ผลงานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้จะย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ตกชั้นเมื่อปี 1973-74 แต่ “ปีศาจแดง” ภายใต้การคุมทีมของรูเบน อโมริม ยังคงไร้พ่ายในเวทียุโรป และพร้อมลงเล่นนัดชิงกับสเปอร์สที่ฟอร์มในลีกไม่สู้ดีเช่นกัน บรูโน่ย้ำว่านี่คือโอกาสสำคัญในการเริ่มต้นสร้างทีมใหม่ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง

“เราต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้” บรูโน่กล่าวอย่างมุ่งมั่น “แมนฯ ยูไนเต็ดต้องสู้เพื่อแชมป์ในทุกการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นยูโรป้า ลีก, พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ หรือคาราบาว คัพ เป้าหมายของเราคืออยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ให้นานที่สุด และสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย”

“นัดชิงพรุ่งนี้คือเกมใหญ่ที่เราตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล เราต้องโฟกัสเต็มที่เพื่อคว้าถ้วยนี้ มันคือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เราต้องการให้สโมสรแห่งนี้กลับไปยิ่งใหญ่”