ไฮไลท์ฟุตบอลไทยลีก 2 บางกอก เอฟซี 1-1 นครศรี ยูไนเต็ด 02/03/2025
รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาส่งข้อความให้กำลังใจ อังเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูของทีม หลังจากที่เจ้าตัวเผชิญกับฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวาในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะความผิดพลาดล่าสุดในเกมที่พบกับอิปสวิช เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
โอนาน่า ซึ่งย้ายมาร่วมทัพ “ปีศาจแดง” ด้วยค่าตัวสูงถึง 47 ล้านปอนด์ในปี 2023 ต้องเผชิญหน้ากับเสียงวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากทำผิดพลาดหลายครั้งตลอดฤดูกาล โดยในเกมล่าสุด เขามีจังหวะสื่อสารที่ไม่ลงตัวกับ พาทริค ดอร์กู ส่งผลให้ทีมเสียประตูและถูกอิปสวิชขึ้นนำไปก่อน
ในการแถลงข่าวก่อนเกมล่าสุด อโมริม ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของ โอนานา และกระตุ้นให้ลูกทีมทุกคนก้าวข้ามความผิดพลาดที่เกิดขึ้น “เราต้องให้การสนับสนุน อังเดร เช่นเดียวกับที่เราสนับสนุนนักเตะทุกคนในทีม และมุ่งมั่นเตรียมตัวสำหรับเกมถัดไป” กุนซือชาวโปรตุเกสกล่าวอย่างหนักแน่น “สิ่งสำคัญคือเราต้องลืมอดีตที่ผ่านมา แล้วหันมาเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตข้างหน้า”
คำพูดของ อโมริม แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัว โอนานา และความมุ่งมั่นที่จะพาทีมกลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้งในเกมต่อไป ขณะที่แฟนบอลต่างรอคอยว่า “ปีศาจแดง” จะสามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้หรือไม่ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้
รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยว่าเขาจำเป็นต้องใช้ความเด็ดขาดในการจัดการนักเตะภายในทีม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนขุมกำลังครั้งสำคัญในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ หลังจากทีมต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ย่ำแย่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของอโมริม ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ โดยปัจจุบันอยู่อันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม ทีมยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์ในสองรายการสำคัญอย่าง เอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก
ในช่วงซัมเมอร์นี้ คาดว่านักเตะหลายรายอาจต้องอำลาทีม โดยหนึ่งในนั้นคือ คาเซมิโร่ มิดฟิลด์จอมเก๋าที่ฟอร์มตก ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งถูกปล่อยยืมตัวไปให้แอสตัน วิลล่า ในขณะนี้ มีโอกาสสูงที่จะถูกขายขาด นอกจากนี้ อนาคตของสองกองหน้าอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ และ โจชัว เซิร์กซี ก็ยังคงคลุมเครือ
“ผมไม่ได้อยากเข้มงวดเพื่อแสดงความแข็งแกร่ง แต่ถ้าผมเห็นอะไรที่เป็นภัยต่อทีม ผมจะจัดการอย่างเด็ดขาด” อโมริม กล่าวถึงแนวทางการบริหารทีมของเขา
กุนซือชาวโปรตุเกสยังเผยอีกว่า นักเตะบางคนในทีมทราบดีแล้วว่าอาจไม่มีที่ยืนในฤดูกาลหน้า โดยระบุว่า “ทุกคนตระหนักดีว่าในวงการฟุตบอล บางครั้งคุณได้ไปต่อ บางครั้งคุณต้องจากไป”
“ผมพยายามสื่อสารให้ชัดเจน เพราะผมเคยเป็นนักเตะมาก่อน และเข้าใจว่าความซื่อสัตย์สำคัญแค่ไหน บางครั้งการยอมรับความจริงอาจยากในตอนแรก แต่สุดท้ายพวกเขาจะเข้าใจ” อโมริม อธิบายเพิ่มเติม
“ผมเปิดเผยและตรงไปตรงมากับนักเตะ บางคนรู้แล้วว่าซีซั่นหน้าพวกเขาอาจต้องย้ายทีม แต่ตอนนี้เรายังมีเกมสำคัญที่ต้องโฟกัส เรื่องการย้ายทีมเราจะมาคุยกันอีกครั้งเมื่อฤดูกาลจบลง” เขากล่าวทิ้งท้าย
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของอโมริมกำลังจะเริ่มต้นขึ้น และแฟนบอลคงต้องจับตาดูว่าเขาจะพาทีมกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมายืนยันว่า นาธาน อาเก้ กองหลังตัวเก่ง จะต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน หลังได้รับบาดเจ็บในเกมเอฟเอ คัพ รอบล่าสุดที่ “เรือใบสีฟ้า” เปิดบ้านเอาชนะ พลีมัธ อาร์ไกล์ 3-1 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ในเกมดังกล่าว อาเก้ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แต่ไม่สามารถเล่นต่อได้ครบ 90 นาที โดยถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง และเป็น รูเบน ดิอาส ที่ลงมาเล่นแทน หลังจบเกม กวาร์ดิโอล่า เปิดใจถึงอาการบาดเจ็บของลูกทีมว่าน่าเป็นห่วง และส่งผลกระทบต่อทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เราต้องเสียกองหลังไปอีกคนแล้ว และดูเหมือนจะต้องพักยาวด้วย ผมมั่นใจว่าเราจะคิดถึง อาเก้ มากแน่นอน” กุนซือชาวสเปนกล่าว
“แต่ผมต้องขอบคุณสโมสรที่ทำงานอย่างหนักในตลาดหน้าหนาว ดึงทั้ง วิตอร์ เฮส และ อับดุคอดีร์ คูซานอฟ เข้ามาเสริมทีม เพราะถ้าไม่มีทั้งสองคนนี้เข้ามา ทีมเราคงเจอปัญหาใหญ่ในแนวรับ แทบจะหมดโอกาสลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า หรือแม้แต่การคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เราเหลือแค่ รูเบน ดิอาส ที่พร้อมลงสนามในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก”
สถานการณ์แนวรับของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานี้ถือว่าวิกฤตอย่างแท้จริง เมื่อนักเตะในตำแหน่งกองหลังตัวกลางต่างเผชิญอาการบาดเจ็บกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น จอห์น สโตนส์ และ มานูเอล อคานจี ที่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ขณะที่ โรดรี้ มิดฟิลด์ตัวรับคนสำคัญของทีม ก็ต้องพักยาวเช่นกันจากอาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด ส่งผลให้ทีมต้องพึ่งพาการปรับตัวและการเสริมทัพอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาผลงานในฤดูกาลนี้ต่อไป
ลอริส คาริอุส ผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน กลับมาสร้างชื่อได้อีกครั้ง หลังโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบในเกมเดบิวต์ตัวจริงให้กับชาลเก้ 04 ทีมในลีกรองของเยอรมนี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมี ดิเล็ตต้า เลออตต้า ภรรยาคนสวย เดินทางมาให้กำลังใจถึงขอบสนาม
คาริอุส ตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพ “ราชันสีน้ำเงิน” เมื่อเดือนมกราคม 2025 ด้วยสัญญาระยะสั้นจนจบฤดูกาลนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องนั่งสำรองให้กับ จัสติส ฮีเคเรน มือหนึ่งของทีม ทว่าในเกมล่าสุดที่พบกับ เพราส์เซ่น มุนสเตอร์ เขาได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี และไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง
ในนัดดังกล่าว คาริอุส โชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการเซฟสองจังหวะสำคัญในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ชาลเก้ 04 เฉือนชนะไปได้ 1-0 ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ทีมขยับหนีห่างจากโซนตกชั้นเพิ่มเป็น 9 คะแนน เรียกได้ว่าเป็นการประเดิมสนามที่สมบูรณ์แบบสำหรับนายทวารวัย 31 ปี
นอกจากฟอร์มในสนามที่โดดเด่นแล้ว กำลังใจจาก ดิเล็ตต้า เลออตต้า ภรรยานักข่าวสาวชื่อดัง ที่เดินทางมาเชียร์ถึงขอบสนาม ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ทำให้วันนี้พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับคาริอุส
หลังจบเกม คาริอุส เปิดใจถึงฟอร์มการเล่นของตัวเองว่า “สำหรับผู้รักษาประตูแล้ว มันดีเสมอถ้าคุณสามารถสร้างความแตกต่างให้ทีมได้ ผมพยายามทำให้ทีมมีความมั่นคง และป้องกันอันตรายที่เข้ามาหน้าปากประตู ซึ่งนั่นคือหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ผมคงเซฟลูกยิงแบบนั้นไม่ได้ การเดบิวต์ครั้งนี้ถือว่าดีมากเลยทีเดียว”
ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเริ่มต้นที่ดีของคาริอุสกับชาลเก้ แต่ยังเป็นสัญญาณว่าเขากำลังกลับมาทวงความมั่นใจและพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางอาชีพอีกครั้ง หลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบากในอดีต แฟนบอล “ราชันสีน้ำเงิน” คงหวังว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมต่อไปในฤดูกาลนี้!
มีรายงานว่า เชสก์ ฟาเบรกัส กุนซือหนุ่มไฟแรงของโคโม่ กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่อาจได้เข้ามาคุมทีม “รอสโซ่เนรี่” เอซี มิลาน หากสโมสรตัดสินใจปลด แซร์โจ้ คอนไซเซา ออกจากตำแหน่ง หลังผลงานของทีมยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีเริ่มสั่นคลอน
มิลาน เพิ่งพ่ายแพ้สองนัดติดต่อกันในเซเรีย อา โดยแพ้ให้กับโตริโน่และโบโลญญ่า ส่งผลให้ทีมร่วงลงมาอยู่อันดับ 8 ของตารางคะแนน ด้วยช่องว่างห่างจากโซนท็อปโฟร์ที่ได้สิทธิ์ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 8 แต้ม ความกดดันจึงตกอยู่ที่คอนไซเซา และอนาคตของเขากับสโมสรเริ่มไม่แน่นอน หากทีมไม่สามารถกลับมาคว้าอันดับท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ได้
จากสถานการณ์ดังกล่าว สื่อรายงานว่า มิลาน ได้เริ่มมองหาตัวเลือกกุนซือคนใหม่ โดยฟาเบรกัส วัย 37 ปี ซึ่งปัจจุบันคุมทีมโคโม่ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่เซเรีย อา กลายเป็นเป้าหมายหลัก ผลงานอันน่าประทับใจของเขากับโคโม่ รวมถึงปรัชญาการเล่นฟุตบอลเน้นเกมรุกสวยงาม ทำให้อดีตมิดฟิลด์ระดับโลกชาวสเปนรายนี้ ตกเป็นที่สนใจของบอร์ดบริหารมิลาน
ปัจจุบัน โคโม่ รั้งอันดับ 13 ของตารางเซเรีย อา ด้วยคะแนน 28 แต้ม จาก 26 นัด ห่างจากโซนตกชั้น 7 คะแนน ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าพอใจสำหรับทีมหน้าใหม่ในลีก แนวทางการทำทีมของฟาเบรกัสได้รับคำชื่นชมอย่างมาก และดูเหมือนจะเข้าตาผู้บริหารของ “ปีศาจแดงดำ” ที่ซาน ซิโร่
อย่างไรก็ตาม ฟาเบรกัสไม่ใช่ตัวเลือกเดียวของมิลาน รายงานระบุว่า เมาริซิโอ ซาร์รี่ อดีตกุนซือลาซิโอ และ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ อดีตนายใหญ่ไบรท์ตัน ก็อยู่ในข่ายที่สโมสรให้ความสนใจเช่นกัน แต่ด้วยผลงานปัจจุบันและสไตล์การคุมทีม ฟาเบรกัสดูจะมีภาษีดีกว่าในสายตาของมิลาน
อนาคตของคอนไซเซาจะเป็นอย่างไร และฟาเบรกัสจะได้ก้าวขึ้นมาคุมทีมระดับท็อปอย่างมิลานหรือไม่ คงต้องจับตาดูกันต่อไปในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้!
เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีม “เรือใบสีฟ้า” เพื่อสานฝันลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2026 ร่วมกับทีมชาติเบลเยียม
โดยรายงานจากเดอะ มิร์เรอร์ ระบุว่า ดาวเตะวัย 33 ปี ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในปีสุดท้าย ใกล้บรรลุข้อตกลงกับสโมสรเพื่อค้าแข้งในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อไป
ก่อนหน้านี้ เดอ บรอยน์ ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับหลายสโมสรทั้งในลีกซาอุดีอาระเบียและเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเจ้าตัวเลือกที่จะอยู่กับแมนฯ ซิตี้ต่อ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งจะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก
ทั้งนี้ สัญญาฉบับใหม่ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมยื่นให้จะมีระยะเวลา 12 เดือน แต่ค่าเหนื่อยของเดอ บรอยน์จะลดลงอย่างมาก จากเดิมที่เขาได้รับ 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เหลือเพียง 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับโครงสร้างทางการเงินของสโมสรและความมุ่งมั่นของนักเตะในการรักษาสภาพร่างกายเพื่อเป้าหมายในระดับนานาชาติ