เดือน: กุมภาพันธ์ 2025
ไฮไลท์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เบรนท์ฟอร์ด 1-1 เอฟเวอร์ตัน 26/02/2025
ไฮไลท์ฟุตบอล โคปา เดล เรย์ เรอัล โซเซียดาด 0-1 เรอัล มาดริด 26/02/2025
ไฮไลท์ฟุตบอล เฟร้นช์ คัพ สตาด บริโอแช็ง 0-7 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 26/02/2025
ไฮไลท์ฟุตบอล เดเอฟเบ RB ไลป์ซิก 1-0 โวล์ฟสบวร์ก 26/02/2025
ไฮไลท์ฟุตบอล โคปา อิตาเลีย ยูเวนตุส (2)1-1(4) เอ็มโปลี 26/02/2025
รอดูกัน!’เทน ฮาก’ เผยอาจเลือกนั่งบริหารแทนการคุมทีม

เอริค เทน ฮาก อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเผยว่าเขาอาจไม่หวนกลับมารับงานคุมทีมอีกเลย หลังถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเขากำลังพิจารณาทุกทางเลือกในชีวิต และยังไม่ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตในวงการฟุตบอล
กุนซือชาวดัตช์ถูกแทนที่โดย รูเบน อโมริม ซึ่งเข้ามารับช่วงต่อ แต่ทีม “ปีศาจแดง” ภายใต้การคุมทีมของอโมริมกลับฟอร์มหลุด หล่นไปอยู่อันดับ 15 ของตารางพรีเมียร์ลีกในขณะนี้ หลังจากที่เทน ฮาก อำลาทีมไป เขายังไม่ได้งานใหม่ และดูเหมือนจะยังไม่รีบร้อนที่จะกลับมาสู่สัมภาระลูกหนังในเร็ววัน
ในช่วงเวลาที่ห่างจากสนาม เทน ฮาก เลือกใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมากขึ้น โดยเขาได้หันไปช่วยงานบริษัทของพ่อและพี่น้อง ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่เขาสนุกและทุ่มเทเวลาให้อย่างเต็มที่ “ผมมีตัวเลือกเยอะแยะว่าจะทำอะไรต่อไป” เทน ฮาก กล่าวในพอดแคสต์ SEG Stories
“อาจจะเป็นงานในวงการฟุตบอล เช่น บทบาทผู้จัดการทั่วไป หรือบางทีอาจจะเป็นอะไรที่ต่างออกไปเลยก็ได้ ช่วงนี้ผมได้ทำงานกับพี่น้องมากขึ้น ช่วยดูแลบริษัทของเรา ซึ่งผมสนุกกับมันจริง ๆ”
- ยังมีโอกาส!’อาร์เตต้า’ ยันไม่ยอมแพ้แม้แข้งปืนเดี้ยงไม่หยุด
- ใกล้แล้ว!’ฟาน ไดจ์ค’ กระตุ้นเพื่อนหงส์รักษาฟอร์มต่อเนื่อง
- ‘สล็อท’ ชี้ ‘ซาลาห์’ มีลุ้นคว้าบัลลงดอร์หากหงส์มีแชมป์
ถึงแม้จะภาคภูมิใจกับช่วงเวลาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่เทน ฮาก ยอมรับว่าการคุมทีมในยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการทำงานกับนักเตะรุ่นใหม่ที่ต้องการแนวทางการจัดการที่แตกต่างไปจากอดีต “คนรุ่นนี้รับมือกับคำวิจารณ์ได้ยาก” เขากล่าว
“พวกเขามักรู้สึกแย่และท้อแท้ได้ง่าย ต่างจากสมัยก่อนที่คนรุ่นผมแข็งแกร่งกว่านี้ ถ้าผมใช้วิธีเข้มงวดแบบเดิมกับนักเตะสมัยนี้ อาจทำให้พวกเขาเสียกำลังใจ แทนที่จะเป็นการกระตุ้น”
เทน ฮาก เคยถูกมองว่าเป็นโค้ชที่เข้มงวดเกินไปในสายตานักเตะบางคนที่แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้เขาต้องปรับตัวอย่างมากในช่วงท้ายของการคุมทีม แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าเส้นทางต่อไปของเขาจะเป็นอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวพร้อมเปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามา ไม่ว่าจะในหรือนอกวงการฟุตบอล
ใกล้แล้ว!’ฟาน ไดจ์ค’ กระตุ้นเพื่อนหงส์รักษาฟอร์มต่อเนื่อง

เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมลิเวอร์พูล ได้เรียกร้องให้เพื่อนร่วมทีมรักษาโมเมนตัมของพวกเขาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเล่นในบ้าน หลังจากที่พวกเขาคว้าชัยชนะในศึกพรีเมียร์ลีกเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
กองหลังชาวดัตช์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำให้แอนฟิลด์กลายเป็นป้อมปราการในช่วงสุดท้ายของฤดูกาล โดยชี้ให้เห็นว่าการสนับสนุนจากแฟนบอลและฟอร์มการเล่นในบ้านจะเป็นปัจจัยสำคัญในการลุ้นแชมป์ของทีม
“ผมเคยพูดหลังเกมกับวูล์ฟส์ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จะรู้สึกกังวล แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องทำให้แอนฟิลด์เป็นสนามที่คู่แข่งไม่อยากมาเยือน เหมือนที่เราเคยทำมาเสมอ” ฟาน ไดจ์ค กล่าว
- ยังมีโอกาส!’อาร์เตต้า’ ยันไม่ยอมแพ้แม้แข้งปืนเดี้ยงไม่หยุด
- ไม่มีแชมป์!’อโมริม’ รับผีล้มเหลวทำพนักงานถูกปลด
- ‘สล็อท’ ชี้ ‘ซาลาห์’ มีลุ้นคว้าบัลลงดอร์หากหงส์มีแชมป์
“เรายังเหลือเกมในบ้านอีก 7 นัดจาก 11 เกมสุดท้าย ซึ่งหมายความว่าเราต้องทำให้ทุกเกมในบ้านเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องจากแฟนบอล ผมเชื่อว่าแอนฟิลด์จะยังคงเป็นข้อได้เปรียบอันยิ่งใหญ่ของเราเสมอ”
ลิเวอร์พูลยังคงอยู่ในการแข่งขันลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยโปรแกรมการแข่งขันในบ้านที่เหลืออยู่ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเก็บแต้มเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดของทีม
‘สล็อท’ ชี้ ‘ซาลาห์’ มีลุ้นคว้าบัลลงดอร์หากหงส์มีแชมป์

อาร์เน่ สล็อท ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เชื่อว่าหากทีมสามารถคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลนี้ โอกาสที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะคว้ารางวัลบัลลงดอร์ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กัปตันทีมชาติอียิปต์อยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงสุด ๆ ในฤดูกาลนี้ โดยยิงไปแล้ว 25 ประตูในพรีเมียร์ลีก และทำอีก 16 แอสซิสต์ ซาลาห์กลายเป็นผู้เล่นคนแรกใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปที่มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 50 ประตูในทุกรายการของฤดูกาลนี้
ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับโอกาสในการคว้าบัลลงดอร์ และ สล็อท ก็เห็นด้วยว่าความสำเร็จของทีมจะช่วยเพิ่มโอกาสของซาลาห์มากขึ้น
“ในแง่เทคนิคแล้ว การที่มีคนพูดถึงโมหมายความว่าเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และทีมของเราก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน” สล็อทกล่าว
- ยังมีโอกาส!’อาร์เตต้า’ ยันไม่ยอมแพ้แม้แข้งปืนเดี้ยงไม่หยุด
- ไม่มีแชมป์!’อโมริม’ รับผีล้มเหลวทำพนักงานถูกปลด
- ไม่ห้าม!เป๊ปเผยให้โอกาส ‘เดอ บรอยน์’ เลือกเองอยู่หรือไป
“แต่การที่เขาจะทำให้มีการพูดถึงอยู่ต่อไปเกี่ยวกับบัลลงดอร์นั้น เขาจำเป็นต้องรักษาระดับฟอร์มการเล่นแบบนี้ให้ได้ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา”
“โดยปกติแล้ว ผู้ที่คว้าบัลลงดอร์มักจะต้องมีแชมป์ติดมือ นั่นเป็นความท้าทายสำคัญที่ทั้งเรากับเขาต้องเผชิญ”
“สิ่งที่ผมชอบก็คือเขายอมรับความท้าทายเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการทำประตูสำคัญเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำแอสซิสต์ที่ยอดเยี่ยม อย่างที่เขาทำในเกมกับซิตี้ นอกจากนี้ เขายังทุ่มเทเพื่อความสำเร็จของทีม ซึ่งเห็นได้จากการเล่นเกมรับของเขาในครึ่งหลัง”
“ผมเชื่อว่าทัศนคตินี้จะช่วยให้เรามีโอกาสคว้าแชมป์ และถ้าเราทำได้ โอกาสของเขาในการคว้าบัลลงดอร์ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
ยังมีโอกาส!’อาร์เตต้า’ ยันไม่ยอมแพ้แม้แข้งปืนเดี้ยงไม่หยุด

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ประกาศชัดเจนว่ายังไม่ละทิ้งความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้ว่าทีมของเขาจะตามหลังลิเวอร์พูลถึง 11 คะแนนในขณะนี้ แม้ได้แข่งมากกว่า 1 นัด
อาร์เซนอลกำลังเผชิญกับปัญหาการบาดเจ็บของผู้เล่นในแนวรุกหลายราย ส่งผลให้ช่องว่างคะแนนระหว่างทีมกับจ่าฝูงห่างออกไปมากขึ้น
เมื่อถูกสื่อถามว่าพร้อมจะยอมแพ้ในการลุ้นแชมป์แล้วหรือไม่ อาร์เตต้าตอบอย่างหนักแน่นว่า “ต้องข้ามศพผมไปก่อน ไม่เช่นนั้นผมคงกลับบ้านไปแล้ว ในแง่ของตัวเลขเรายังมีโอกาสอยู่”
- เผยหงส์จ่อรับโบนัสจาก ‘ไนกี้’ 2 ลป.หากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
- ไม่มีแชมป์!’อโมริม’ รับผีล้มเหลวทำพนักงานถูกปลด
- ไม่ห้าม!เป๊ปเผยให้โอกาส ‘เดอ บรอยน์’ เลือกเองอยู่หรือไป
“คุณอยู่ตรงนั้น คุณต้องลงเล่นทุกนัด เมื่อ 3 วันก่อนเราน่าจะทำให้ช่องว่างแคบลงได้ คุณรู้สึกว่ามันห่างกันแค่เกมครึ่งเท่านั้น แต่มันก็ไม่สำคัญหรอก เราต้องสู้ต่อไป”
กุนซือชาวสเปนยังยอมรับว่าเส้นทางสู่แชมป์ยากขึ้นกว่าเดิม “ความยากลำบากมันเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อ 3 วันก่อน แต่หากคุณจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก คุณต้องทำสิ่งที่พิเศษ”
“หากเราจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในสภาพแวดล้อมแบบที่เรามีอยู่ตอนนี้ บางทีเราอาจต้องทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก”
ไม่มีแชมป์!’อโมริม’ รับผีล้มเหลวทำพนักงานถูกปลด

รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายอมรับว่าความล้มเหลวในการแข่งขันของทีมมีส่วนสำคัญที่ทำให้สโมสรต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก
ก่อนหน้านี้มีการประกาศเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าสโมสรเตรียมปลดพนักงานเพิ่มมากถึง 200 คน ซึ่งนับเป็นการลดพนักงานครั้งที่สอง ต่อจากเมื่อปีก่อนที่ปลดไปแล้ว 250 คน
เมื่อถูกถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างการปลดพนักงานกับความสำเร็จในสนาม อโมริมตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “มันชัดเจนมาก” พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่สโมสรต้องหันมาทบทวนถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตเช่นนี้
“เราต้องจัดการปัญหาทุกด้านในสโมสร แต่สิ่งสำคัญตอนนี้คือการทำความเข้าใจว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ซึ่งมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับการที่สโมสรขาดความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ทีมฟุตบอลคือหัวใจของทุกสโมสร และผมอยากช่วยในส่วนที่ผมทำได้ นั่นคือการพัฒนาทีมและนักเตะให้ดีขึ้น รวมถึงพาความสำเร็จกลับมา”
- เผยหงส์จ่อรับโบนัสจาก ‘ไนกี้’ 2 ลป.หากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
- ‘โอเดการ์ด’ กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมลืมความผิดหวังต้องเดินหน้าต่อ
- ไม่ห้าม!เป๊ปเผยให้โอกาส ‘เดอ บรอยน์’ เลือกเองอยู่หรือไป
อโมริมยังกล่าวถึงความท้าทายที่ทุกคนในสโมสรต้องเผชิญ “มันเป็นเรื่องยากสำหรับทุกฝ่าย โดยเฉพาะเมื่อพนักงานต้องเห็นเพื่อนร่วมงานสูญเสียตำแหน่ง แต่เราต้องมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราควบคุมได้ เพื่อช่วยสโมสรในช่วงเวลานี้ เราต้องร่วมกันวิเคราะห์ว่าอะไรผิดพลาดไป และหาทางแก้ไขให้ได้”
“การทำงานที่นี่ไม่ง่ายอยู่แล้ว และเราทุกคนรู้ว่านี่เป็นฤดูกาลที่ยากลำบาก สโมสรมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ถ้าทีมทำผลงานได้ดีและคว้าชัยชนะได้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเห็นผลชัดเจนขึ้นในสายตาแฟนบอลและทุกคน แต่ตอนนี้เรากำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากทั้งในและนอกสนาม เราต้องต่อสู้กับความรู้สึกนี้ และพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อยกระดับผลงานของทีม” อโมริมทิ้งท้าย
การปลดพนักงานครั้งล่าสุดนี้สะท้อนถึงความกดดันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญ ท่ามกลางผลงานที่ยังไม่คงเส้นคงวาในฤดูกาลนี้ ซึ่งอโมริมหวังว่าการพัฒนาทีมจะเป็นกุญแจสำคัญในการพาสโมสรกลับมาสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง
ไม่ห้าม!เป๊ปเผยให้โอกาส ‘เดอ บรอยน์’ เลือกเองอยู่หรือไป

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ของ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเก่งของทีม โดยระบุว่าดาวเตะชาวเบลเยียมจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองเกี่ยวกับอนาคตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากสัญญาของเขากับสโมสรกำลังจะสิ้นสุดลงเมื่อจบฤดูกาลนี้
เดอ บรอยน์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากค้าแข้งกับทีมมานานกว่า 10 ปี เริ่มเผชิญกับคำถามเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นและสภาพร่างกายในช่วงหลัง โดยกวาร์ดิโอล่ายืนยันว่าสโมสรพร้อมให้อิสระแก่เขาในการเลือกเส้นทางของตัวเอง
ในระยะหลัง มิดฟิลด์วัย 33 ปีต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ง่าย เขาถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมที่แมนฯ ซิตี้บุกไปพ่ายอาร์เซน่อล และไม่ได้ลงสนามเลยในนัดที่พบกับเรอัล มาดริดเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ผลงานในเกมล่าสุดที่แพ้ลิเวอร์พูลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าร่างกายของเขาจะยังคงทนทานต่อความเข้มข้นของพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่
- เผยหงส์จ่อรับโบนัสจาก ‘ไนกี้’ 2 ลป.หากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
- ‘โอเดการ์ด’ กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมลืมความผิดหวังต้องเดินหน้าต่อ
- ‘มาเรสก้า’ ยันไม่กังวลปัญหาฟอร์มฝืดของ ‘พัลเมอร์’ แข้งตัวเก่ง
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง” กวาร์ดิโอล่ากล่าว “เขาต้องซื่อสัตย์กับตัวเองว่ารู้สึกอย่างไร และอยากจะทำอะไรต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของชีวิตการค้าแข้ง”
“เขาจะอายุ 34 ในช่วงซัมเมอร์นี้ และเขาคือคนที่ต้องกำหนดเส้นทางของตัวเอง เหมือนอย่างที่เราเคยเห็นกับ ดาบิด ซิลบา มาแล้ว” กุนซือชาวสเปนทิ้งท้าย
อนาคตของเดอ บรอยน์ยังคงเป็นประเด็นที่แฟนบอลและสื่อจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าการตัดสินใจของเขาจะส่งผลต่อทิศทางของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในฤดูกาลหน้าไม่น้อย