เดือน: มกราคม 2025

มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าดาวดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ปฏิเสธข้อเสนอค่าเหนื่อยมหาศาลจากสโมสรในซาอุดีอาระเบีย โดย Daily Mail รายงานว่า ข้อเสนอดังกล่าวมูลค่าสูงถึง 35 ล้านปอนด์ต่อปี (ประมาณ 1,540 ล้านบาท) ซึ่งมากกว่าค่าเหนื่อยที่เขาได้รับจากต้นสังกัดปัจจุบันถึงสามเท่า

แม้จะได้รับข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจ แต่ แรชฟอร์ด ต้องการที่จะค้าแข้งกับสโมสรที่สามารถช่วยให้เขากลับไปติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง หลังจากที่หลุดจากทีมชาติชุดล่าสุดในการแข่งขันยูโร 2024 โดยมีรายงานว่าเขาต้องการพิสูจน์ตัวเองภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบัน

• บาร์เซโลน่า เล็งคว้า หลุยส์ ดิอาซ ร่วมทัพ หวังเสริมแกร่งแนวรุก
• อดีตแข้งดังชี้ แมนฯ ยูไนเต็ด หมดเสน่ห์ดึงดูดแข้งระดับโลก
• เชลซี เรียกตัว สโลนีน่า คืนถิ่นหลังหมดสัญญายืมตัวกับ บาร์นสลีย์

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่าอนาคตของ แรชฟอร์ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่แน่นอนนัก หลังจากที่เขาถูกดร็อปในเกมสำคัญที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปลายเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอจากซาอุดีอาระเบีย แสดงให้เห็นว่าแรชฟอร์ดมุ่งมั่นที่จะอยู่ในระดับสูงสุดของฟุตบอลยุโรปและกลับคืนสู่ทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง

มีรายงานจากสื่อในแคว้นกาตาลุญญาว่า บาร์เซโลน่า กำลังให้ความสนใจในตัวของ หลุยส์ ดิอาซ ปีกตัวเก่งของลิเวอร์พูล โดยหวังดึงตัวมาร่วมทีมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรุก

ตามรายงานระบุว่า เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬาของ บาร์เซโลน่า ชื่นชอบฝีเท้าของดิอาซเป็นอย่างมาก และมองว่าเขาเป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพครั้งนี้ ดิอาซ เคยตกเป็นข่าวกับ บาร์เซโลน่า มาแล้วในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ประกอบกับคุณพ่อของดิอาซเคยออกมาเปิดเผยว่าลูกชายของเขาเป็นแฟนบอลของ บาร์เซโลน่า ทำให้ข่าวลือนี้ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น

• อดีตแข้งดังชี้ แมนฯ ยูไนเต็ด หมดเสน่ห์ดึงดูดแข้งระดับโลก
• เชลซี เรียกตัว สโลนีน่า คืนถิ่นหลังหมดสัญญายืมตัวกับ บาร์นสลีย์
• กาเซมีโร่ อาจโบกมือลา แมนยูฯ ในตลาดหน้าหนาวหรือซัมเมอร์นี้

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า ดิอาซ ไม่พอใจที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่มีการปรับปรุงสัญญาใหม่ให้กับเขา รวมถึงทีมงานของดิอาซก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ บาร์เซโลน่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่า บาร์เซโลน่า จะยื่นข้อเสนอขอซื้อ ดิอาซ ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ หรือจะรอจนจบฤดูกาล

สื่อเจ้าเดิมยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในบรรดาผู้เล่นที่ บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจทั้งหมด 4 ราย ได้แก่ ดิอาซ, ราฟาเอล เลเอา, นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ ควิชา ควารัตสเคเลีย นั้น ดิอาซ เป็นผู้เล่นที่เดโก้ต้องการตัวมากที่สุด โดยเชื่อว่า ดิอาซ จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ

โจ โคล อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษ ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างตรงไปตรงมา โดยมองว่าปัจจุบันทีม ปีศาจแดง อยู่ในช่วงขาลงอย่างหนัก จนไม่สามารถดึงดูนักเตะระดับท็อปมาร่วมทีมได้อีกต่อไป

แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจาก เอริค เทน ฮาก มาเป็น รูเบน อโมริม อดีตกุนซือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่สถานการณ์ของทีมกลับไม่ดีขึ้น แถมอโมริมยังสร้างสถิติย่ำแย่ให้กับสโมสร ส่งผลให้ทีมรั้งอันดับ 14 ในตารางพรีเมียร์ลีก มีแต้มห่างจากโซนตกชั้นเพียง 7 คะแนน ก่อนหน้าเกมสำคัญที่จะต้องบุกไปเยือนจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ในวันที่ 5 มกราคม

จากผลงานที่น่าผิดหวังนี้ ทำให้ โคล อดีตนักเตะชื่อดังที่เคยค้าแข้งกับหลายสโมสรชั้นนำ เช่น เวสต์แฮม, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แอสตัน วิลล่า แสดงความเห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในปัจจุบันแทบไม่มีแรงดึงดูดใจให้นักเตะระดับหัวแถวต้องการย้ายมาร่วมทีม

“ผมคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีแนวโน้มที่จะจบฤดูกาลนี้ในโซนครึ่งล่างของตาราง แม้ว่าจะมีบางทีมที่อยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการตกชั้นมากกว่า” โคล กล่าวเมื่อวันที่ 2 มกราคม

เขายังกล่าวถึงการเข้ามาของ อโมริม ว่า “การที่ รูเบน อโมริม เข้ามา พร้อมกับคำกล่าวอ้างว่าจะมาเป็นผู้กอบกู้สถานการณ์ มันเหมือนกับการซื้อบ้านโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบว่าโครงสร้างเสียหายและมีปัญหามากมาย อโมริม เข้ามาโดยไม่รู้ว่าสโมสรต้องการการผ่าตัดครั้งใหญ่ในทุกๆ ด้าน”

• เชลซี เรียกตัว สโลนีน่า คืนถิ่นหลังหมดสัญญายืมตัวกับ บาร์นสลีย์
• กาเซมีโร่ อาจโบกมือลา แมนยูฯ ในตลาดหน้าหนาวหรือซัมเมอร์นี้
• กูรูฟันธง! แข้งผีแดงรายหนึ่ง สิ้นศรัทธาต่อ อโมริม หลังโดนเปลี่ยนตัวฟ้าผ่า

โคล ยังให้คำแนะนำแก่ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า “แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องยอมรับความจริงว่าการสร้างทีมต้องใช้เวลา พวกเขาจะไม่ตกชั้น แต่พวกเขาจะยังคงอยู่ในโซนครึ่งล่างของตาราง”

“ถ้าผมมีโอกาสแนะนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมจะบอกให้พวกเขาลืมการเซ็นสัญญากับนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์หรือดาวรุ่งพรสวรรค์สูงไปก่อน พวกเขาควรโฟกัสกับการเซ็นสัญญานักเตะที่สามารถพาทีมขยับจากอันดับ 12 ไปสู่อันดับ 8 และจากนั้นก็ไปสู่อันดับ 4”

“พวกเขาควรใช้จ่ายเงินในแบบเดียวกับที่ สเปอร์ส ทำในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และมองหานักเตะที่สามารถต่อกรกับทีมอย่าง ไบรท์ตัน, นิวคาสเซิ่ล และ แอสตัน วิลล่า ได้”

“พวกเขาไม่ควรพยายามซื้อนักเตะเพื่อแข่งขันกับ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาอยู่ในตลาดที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับนักเตะชื่อดัง แต่ในตอนนี้พวกเขาจะไม่ย้ายมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เว้นแต่ว่าอาชีพของพวกเขาจะอยู่ในช่วงขาลง หรือไม่ก็เป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีความเสี่ยงสูง”

เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ประกาศเรียกตัว เกเบรียล สโลนีน่า ผู้รักษาประตูดาวรุ่งชาวอเมริกัน กลับสู่ทีมอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับ บาร์นสลีย์ ทีมในลีกวัน เมื่อช่วงต้นฤดูกาล

สโลนีน่า ผู้รักษาประตูวัย 20 ปี ได้ลงสนามให้กับ บาร์นสลีย์ ไปทั้งสิ้น 14 นัดในทุกรายการ ก่อนที่ เชลซี จะตัดสินใจดึงตัวเขากลับมาในช่วงกลางฤดูกาล การย้ายกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการสิ้นสุดสัญญายืมตัวของ สโลนีน่า กับ บาร์นสลีย์ อย่างเป็นทางการ

• กาเซมีโร่ อาจโบกมือลา แมนยูฯ ในตลาดหน้าหนาวหรือซัมเมอร์นี้
• กูรูฟันธง! แข้งผีแดงรายหนึ่ง สิ้นศรัทธาต่อ อโมริม หลังโดนเปลี่ยนตัวฟ้าผ่า
• เรื่องปกติ!มาเรสก้าเผย ‘สิงห์’ ฟอร์มดร็อปคาดไว้แล้ว

สำหรับ สโลนีน่า นั้น เชลซี ได้เซ็นสัญญาคว้าตัวมาจาก ชิคาโก ไฟเออร์ ในเมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2022 โดยหลังจากนั้น สโลนีน่า ได้ถูกปล่อยยืมตัวให้กับทั้งชิคาโก ไฟเออร์ และ ยูเปน ในลีกเบลเยียม เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนที่จะถูกส่งตัวมายัง บาร์นสลีย์ ในฤดูกาลนี้

การเรียกตัว สโลนีน่า กลับมาในครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแผนการในอนาคตของ เชลซี ที่มีต่อผู้รักษาประตูดาวรุ่งรายนี้ หรืออาจเป็นเพราะสถานการณ์ภายในทีมที่ต้องการกำลังเสริมในตำแหน่งผู้รักษาประตู

อนาคตของ กาเซมีโร่ มิดฟิลด์มากประสบการณ์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่อแววไม่แน่นอนเสียแล้ว หลัง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวชื่อดังชาวอิตาเลียน ออกมารายงานว่า ดาวเตะชาวบราซิลเตรียมเก็บกระเป๋าออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ ก็ในช่วงซัมเมอร์ปี 2025

กาเซมีโร่ วัย 32 ปี กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในการยึดตำแหน่งตัวจริงภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอร์มการเล่นในนัดล่าสุดที่พ่าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด คาบ้าน 0-2 ซึ่งเขาได้ลงเล่นคู่กับ คริสเตียน เอริคเซ่น ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

• กูรูฟันธง! แข้งผีแดงรายหนึ่ง สิ้นศรัทธาต่อ อโมริม หลังโดนเปลี่ยนตัวฟ้าผ่า
• เรื่องปกติ!มาเรสก้าเผย ‘สิงห์’ ฟอร์มดร็อปคาดไว้แล้ว
• ยอมแพ้!’เป๊ป’ รับสภาพเรือหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์

จากฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวา ทำให้หลายฝ่ายมองว่าอนาคตของเขากับ “ปีศาจแดง” ใกล้ถึงจุดสิ้นสุด อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์และคุณภาพที่ยังคงมีอยู่ ทำให้เขายังคงเป็นที่ต้องการของหลายสโมสร ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะย้ายออกจากทีม

โรมาโน่ ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) ว่า “ไม่ใช่แค่ เอริคเซ่น และ ลินเดอเลิฟ เท่านั้น กาเซมีโร่ ก็เตรียมที่จะอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตลาดเดือนมกราคม หรือซัมเมอร์นี้เช่นกัน สโมสรต้องการระบายนักเตะเพื่อนำเงินมาเสริมทัพ และกองกลางชาวบราซิลก็พร้อมที่จะย้ายหากมีข้อเสนอที่เหมาะสม”

ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ อดีตกองกลางชื่อดัง ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์ภายในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเชื่อว่า โจชัว เซิร์กซี่ กองหน้าดาวรุ่ง ได้สูญเสียความเชื่อมั่นในตัว รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมไปแล้ว หลังจากการตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาออกจากสนามตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก ในเกมที่พ่ายแพ้ต่อ นิวคาสเซิ่ล คาบ้าน

ในเกมดังกล่าว อโมริม เลือกใช้ เซิร์กซี่ ลงสนามคู่กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นครั้งแรก โดยมอบหมายบทบาทเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 ให้กับแข้งชาวดัตช์ เพื่อทดแทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ติดโทษแบน อย่างไรก็ตาม ฟอร์มการเล่นของ เซิร์กซี่ ไม่เป็นที่น่าพอใจ ทำให้ อโมริม ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาออกในนาทีที่ 33 และส่ง ค็อบบี้ เมนู ลงสนามแทน ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

• เรื่องปกติ!มาเรสก้าเผย ‘สิงห์’ ฟอร์มดร็อปคาดไว้แล้ว
• ยอมแพ้!’เป๊ป’ รับสภาพเรือหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์
• ลุยต่อ!’อโมริม’ เผยขอสู้สุดชีวิตรับกังวลผลงานทีม

มีรายงานว่า เซิร์กซี่ ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่หลังถูกเปลี่ยนตัวออก ทำให้ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของเขาในช่วงเดือนมกราคมกับ ยูเวนตุส กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง แม้ว่าจะมีรายงานจาก เดลี่ เมล ว่าแข้งวัย 23 ปี ยังคงมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริง

รีโอ-โคเกอร์ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า “มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายสำหรับนักเตะ ในฐานะนักฟุตบอล เมื่อคุณเจอสถานการณ์แบบนี้ คุณต้องคำนึงถึงความเป็นมนุษย์” เขากล่าวกับ บีบีซี “เขาจะมองไปที่ รูเบน อโมริม และจะไม่เชื่อใจเขาอีกต่อไป เขาอาจจะพูดว่า ‘สวัสดีตอนเช้า บอส’ แต่ลึกๆ แล้ว เขาจะไม่เคารพเขาอีกแล้ว”