สมาพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส (FPF) เตรียมยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เพื่อโน้มน้าวไม่ให้ลงโทษแบนคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เกินกว่า 1 นัด จากเหตุการณ์ใบแดงที่ได้รับในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกนัดล่าสุด ซึ่งโปรตุเกสบุกพ่ายไอร์แลนด์ 2-0 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ในนาทีที่ 59 ของเกมที่สนามอาวิว่า สเตเดี้ยม เมืองดับลิน ขณะที่ “ฝอยทอง” ตามหลัง 0-2 โรนัลโด้วัย 40 ปี ได้ใช้ศอกใส่ดาร่า โอเช กองหลังทีมชาติไอร์แลนด์ จนถูกผู้ตัดสินเกล็น นีเบิร์ก จากสวีเดน เรียกดู VAR ข้างสนามก่อนชูใบแดงไล่ออกจากสนาม
เบื้องต้น โรนัลโด้จะถูกแบนอัตโนมัติ 1 นัด ทำให้พลาดช่วยทีมชาติโปรตุเกสในเกมรอบคัดเลือกนัดสุดท้าย ซึ่งจะเปิดบ้านรับอาร์เมเนียในวันอาทิตย์นี้ อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการวินัยของฟีฟ่าพิจารณาว่าเป็นการกระทำรุนแรงโดยเจตนา โทษอาจเพิ่มเป็น 3 นัด ส่งผลให้เขาพลาดลงเล่นในช่วงต้นของฟุตบอลโลก 2026 ที่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก
- เผยเหตุยูฟ่าเมิน ‘แอนฟิลด์’ เจ้าภาพยูโร 2028 เพราะสนามไม่ผ่านเกณฑ์
- ‘เดอ ลิกต์’ เผยจุดเปลี่ยนทางความคิดเหตุสำคัญพาฟอร์มพุ่ง
- ‘ชาบี’ เปิดใจถึงบทเรียนความล้มเหลวครั้งใหญ่กับบาร์ซ่า
ตามรายงานจาก A Bola สื่อชื่อดังของโปรตุเกส ระบุว่า FPF เตรียมยื่นอุทธรณ์เพื่อขอผ่อนปรนโทษ โดยอ้างเหตุผลหลัก 3 ประการ เพื่อให้ฟีฟ่ารับฟังและไม่เพิ่มโทษแบนเกิน 1 นัด
ประการแรก คือบรรยากาศในสนามที่ไม่เป็นมิตร โดยเฉพาะที่อาวิว่า สเตเดี้ยม ซึ่งรวมถึงบทสัมภาษณ์ก่อนเกมของสตีเฟ่น เคนนี่ โค้ชทีมชาติไอร์แลนด์ ที่กล่าวหาว่าโรนัลโด้มีอิทธิพลต่อผู้ตัดสินในนัดก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองทีมเคยเจอกัน
ประการที่สอง สมาพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกสชี้ว่า ในจังหวะที่เกิดเหตุ โรนัลโด้ถูกยั่วยุก่อน โดยโอเชดึงเสื้อเขา ทำให้เกิดความหงุดหงิดและตอบโต้ด้วยศอก ซึ่งไม่ใช่การกระทำโดยเจตนารุนแรงแต่แรก
ประการสุดท้าย คือสถิติการเล่นที่สะอาดของโรนัลโด้ตลอดอาชีพ โดยเขารับใช้ทีมชาติโปรตุเกสมาแล้ว 225 นัด ก่อนหน้านี้ไม่เคยถูกใบแดงไล่ออกแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่ง FPF มองว่านี่เป็นหลักฐานแสดงถึงวินัยและพฤติกรรมที่ดีของนักเตะ
